@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 12 วันที่ 5 ส.ค. 56

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 12 วันที่ 5 ส.ค. 56

รุ้งร้อนไปทั้งหน้าและเสมองไปทางอื่น ฉัตต์ก้าวไปดักหน้าและแตะผ้าพันคอที่จงใจพันมาให้เธอเห็น

“ผ้าผืนนี้ไม่เคยห่างตัว”
จริมาอ้างถึงคำพูดของคุณย่าที่เล่าเรื่องแม่ราตรีว่าไม่สบายและเจ็บออดๆแอดๆมานาน จนสุดท้ายอาการหนักเมื่อคลอดเธอ...เหมือนจะรอให้แน่ใจว่ามีคนเลี้ยงลูกทั้งสองแทนจึงจากไป

“ริมาแย่งรุ้งดื่มนมคุณน้า คุณน้ากล่อมริมานอนทุกคืน แม้แต่ตอนคุณพ่อเจ็บคุณน้าก็ดูแลไม่ห่าง ส่วนรุ้ง...พี่ฉัตต์รู้ไหมว่าเขาไม่เคยคิดเรียนพยาบาล เขากลัวเลือด กลัวเข็มฉีดยาและคนตาย ริมานอนกับเขาได้ยินเสียงละเมอตลอด ร้องไห้ก็มี แต่เขาทนเรียนเพื่อตอบแทนบุญคุณคุณย่าและคุณพ่อ เขาดูแลคุณพ่อจนวินาทีสุดท้าย”


ฉัตต์นัยน์ตาแดงก่ำ ความจริงที่เพิ่งรับรู้ทำให้พาลเกลียดตัวเองที่ใจร้อนวู่วามจนทำร้ายจิตใจรุ้ง

“รุ้งทำทุกอย่างแทนเราสองคน ทำไมไม่เห็นความดีของเขา แถมไล่เขาออกจากบ้านทั้งที่ไม่ถามเขาสักคำ”

ฉัตต์ทนไม่ไหวอีกต่อไป เอื้อมมือไปดึงร่างน้องมากอดแน่น แม้เธอจะขัดขืนเขาก็ไม่ยอมปล่อย

“เขาตีพี่ฉัตต์ทั้งที่กลัวแทบตายจนเป็นลมเพราะเขารู้ว่าคุณพ่อตีพี่ฉัตต์จะเจ็บยิ่งกว่า...จำได้หรือเปล่า”

“ริมา...หยุดเถอะ พี่เข้าใจแล้ว เข้าใจทุกอย่าง”

พิสินียืนมองสองพี่น้องคุยกันอยู่นานก็ตัดสินใจขอตัวกลับเพราะคิดว่าเขาคงอยากใช้เวลาส่วนตัวกับน้องสาว ฉัตต์อาสาไปส่งตามประสาสุภาพบุรุษที่ดีแต่เธอปฏิเสธ

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉัตต์อยู่กับคุณริมาเถอะ บัวเห็นใจนะคะแต่ก็อยากให้คิดสักนิดว่าที่คุณริมาโศกเศร้าอยู่เนี่ย คุณรุ้งอาจจะมีความสุขก็ได้ บัวเชื่อว่าคุณชายคนนั้นต้องทำให้เธอมีความสุขแน่นอน”

พิสินีจากไปแล้ว ฉัตต์ได้แต่ถอนใจหนักหน่วง ผิดกับจริมาที่มองตามอึ้งๆ หันไปหาพี่ชายแล้วถามเสียงหยัน

“ผู้หญิงที่พี่ฉัตต์รักถึงกับจะแต่งงานด้วยคือคนนี้น่ะหรือคะ”

ฉัตต์ไม่มีคำตอบให้เพราะก็สงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าคิดถูกหรือไม่ที่เอาตัวไปพัวพันกับพิสินี

ooooooo

ความน่ารักและไม่ถือตัวของรุ้งทำให้ทุกคนในวังชื่นชม ชายเดียวถึงกับยิ้มไม่หุบเมื่อได้ยินสนที่มารับหน้าหอพูดถึงเธอว่าเป็นคนเรียบง่ายและคิดถึงใจคนอื่นเสมอ เช่นเดียวกับบรรดาบ่าวในครัวที่อดพูดถึงรุ้งด้วยความเอ็นดูไม่ได้

“จริงไหมล่ะป้า ถ้าบอกว่าคุณรุ้งเป็นลูกหม่อมบุหลันฉันจะเชื่อเลยนะ”

“อีบ้าพิกุล...วอนซะแล้วนะแก เดี๋ยวคุณหญิงทอแสงได้ยินแล้วไปถึงท่านหญิง เอ็งจะพูดชื่อหม่อมขึ้นมาทำไม”

“ไม่รู้สิป้าสาลี่...คนเราจะเหมือนกันขนาดนั้นได้ยังไง คุณจันทร์แม่คุณรุ้งน่ะ หน้าเหมือนหม่อมบุหลันจริงๆนะ”

บทสนทนาเกี่ยวกับอดีตหม่อมเป็นเรื่องต้องห้ามในวังไปเสียแล้ว แต่เหล่าข้าราชบริพารก็ไม่เคยลืมหม่อมคนโปรด ความดีและจิตใจเอื้อเฟื้อของบุหลันทำให้มีแต่คนสงสารและเห็นใจมากกว่าคนเกลียด

ฝ่ายชายเดียวกลับถึงวังก็ตรงเข้าหาท่านแม่ ก้มลงกราบที่ตักอย่างอ่อนโยนแต่กลับถูกตีรวนใส่ เขาจึงขอ ตัวกลับห้องเพราะคิดว่าท่านคงอยากพักผ่อนตามลำพัง แต่แล้วก็ต้องประคองแทบไม่ทันเพราะท่านแม่อ่อนเพลียจนเกือบเป็นลม คุณชายตรวจชีพจรและพยุงไปนอน แต่จู่ๆท่านหญิงก็กรรแสงและโผกอดลูกชายแน่น

“ชาย...รับปากแม่อย่างหนึ่งได้ไหมลูก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นชายอย่าทิ้งแม่”

“ทิ้งท่านแม่...ทำไมหรือคะ ชายจะทิ้งท่านแม่ได้ยังไง มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ไม่มีวันเกิดขึ้นหรอกค่ะ”

ท่านหญิงได้แต่กรรแสงและกอดลูกชายแน่น คาดคั้นให้สัญญาจนชายเดียวเริ่มใจไม่ดี

“ไม่ต้องสัญญาหรอกค่ะเพราะสัญญาฉีกทิ้งได้ มันอยู่ที่หัวใจค่ะ ชายไม่มีวันทิ้งท่านแม่ให้อยู่องค์เดียว”

ท่านหญิงกระชับอ้อมแขนแน่นอย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยว ชายเดียวทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ปลอบประโลมและโอบกอดแม่ให้คลายกังวล ทั้งที่ในใจสงสัยเหลือเกิน... รับสั่งเหมือนจะโดนทิ้ง มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!

ชายเดียวดูแลท่านแม่จนบรรทมแล้วออกมาเดินเล่น เห็นรถจากบ้านปัณณธรแล่นเข้ามาก็วิ่งไล่ตาม ยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นจริมานั่งมาที่ด้านหลัง ราชนิกุลหนุ่มก้าวไปดักหน้าตำหนักและทักทายด้วยความดีใจ เพิ่งรู้ตัวว่าความรู้สึกต่อเพื่อนเล่นตอนเด็กๆคนนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว

จริมาก็ใจเต้นแรงไม่น้อยเพราะแอบคิดถึงเขาอยู่บ่อยๆ นัยน์ตาหวานและท่าทางตื่นเต้นทำให้เธอขวยเขินอย่างช่วยไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูกก็เสถามถึงรุ้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง ชายเดียวแกล้งทำขรึมและบอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล

“ฉันควรจะรู้ว่ารุ้งทำงานแล้ว เขาต้องไปแต่เช้าแน่เพราะเป็นคนขยันและอดทน ใครได้แต่งงานด้วยคงไม่เสียใจแน่นอน” ชายเดียวทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าโดนประชด จริมาเลยแหวกลับ

“คุณชาย...ทำไมปล่อยให้ฉันพูดคนเดียวเหมือนคนบ้า”

“งั้นคนที่ชอบฟังคนพูดคนเดียวก็เหมือนคนบ้าด้วย”

จริมาหน้าแดง รู้ตัวว่าถูกจีบซึ่งๆหน้า พยายามข่มความอายแต่ก็ทำได้ไม่ดีนักเลยเปลี่ยนเรื่องคุย

“ขอบคุณคุณชายที่รักษาสัญญาจะดูแลรุ้ง คุณชายทำได้ตามที่พูดทุกอย่าง ถ้าคุณชายไม่พามาที่นี่ คิดดูว่ารุ้งจะไปอยู่ที่ไหน ต้องถูกไล่ออกจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด...ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”

“ไม่ต้องเลยริมา...ผมว่าระหว่างเราสี่คนไม่มีคำไหนที่ต้องพูดกันตามมารยาทเลย จริงๆนะริมา”

จริมาเข้าใจความนัยดี เสมองไปทางอื่นทั้งหน้าร้อนผ่าว ชายเดียวชอบใจมากที่ทำให้หญิงสาวปากกล้าอายได้

“คุณโตขึ้นมากนะริมา”

“แน่นอนสิ ฉันกินข้าวนี่ กินแล้วไม่โตจะกินทำไม”

“คุณก็รู้ว่าผมหมายถึงคุณเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก”

ชายเดียวมองมาอย่างมีความหมาย จริมารับรู้ถึงสายตาคมกริบคู่นั้นจนเขินจัดแต่พยายามเก็บอาการ

“ฝากรุ้งด้วย นึกเสียว่าทำเพื่อน้าจันทร์ คุณน้ารักคุณชายมากนะ เธอเคยบอกฉันแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร”

“ผมจะดูแลรุ้งอย่างดีที่สุด...ผมสัญญา อย่าห่วงเลยริมา รุ้งจะอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยที่สุด”

สองหนุ่มสาวเดินคุยกันอีกพักใหญ่ จริมารู้สึกดีและสบายใจมากพอจะเล่าเรื่องบุญคุณของจันทร์กับรุ้งว่ามากมายจนบรรยายไม่หมด

“บรรยายไม่หมดหรือ มาที่นี่ทุกวันได้ไหม บรรยายวันละเรื่อง”

จริมาหน้าแดงเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน ไม่ชอบเลยที่ถูกจีบตรงๆแบบนี้ ชายเดียวเอ็นดูท่าทางเขินนั้นแต่ก็ยังแหย่ไม่เลิก

อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 12 วันที่ 5 ส.ค. 56

ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภา
ละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ