อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 3 วันที่ 1 ก.ค. 56
ชายเดียวนอนกระสับกระส่ายเพราะฝันร้าย ยังฝังใจเรื่องโดนท่านพ่อไล่จากห้องเมื่อบ่าย ท่านหญิงตื่นมาดูเพราะเฟืองเข้าฝันบอก โอบกอดลูกชายแน่นด้วยความสงสารแล้วสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากตัวเขาเพราะพิษไข้ ลูบศีรษะปลอบประโลมและป้อนยาให้ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยกันรุ้งก็ทรมานเพราะพิษไข้ไม่แพ้แฝดพี่ จันทร์คอยดูแลไม่ห่าง ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าฉัตต์เฝ้ามองแสงไฟจากเรือนหลังเล็กด้วยแววตากังวล อยากไปเยี่ยมแต่กลัวเสียหน้า ตัดสินใจรอจนเช้าจึงไปปลุกน้องสาวให้ไปเยี่ยมเพื่อนรัก
“พี่ฉัตต์จะแช่งรุ้งทำไม แช่งแล้วไม่สงสารเขาเหรอ ตัวเองนั่นแหละทำให้เขาไม่สบาย ไปเยี่ยมด้วยกันไหม”
ฉัตต์เขิน หมุนตัวออกจากห้องทันทีเพราะไม่อยากถูกจับได้ว่าเป็นห่วงคู่ปรับแต่แอบดูจนแน่ใจว่าจริมาเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงวางถุงขนมสีสวยบนเตียง หวังให้น้องเอาไปเป็นของเยี่ยมไข้
พจน์ก็ต่อสู้กับใจตัวเองอย่างหนัก อารมณ์หวั่นไหวที่เกิดกับจันทร์ทำให้ลังเลว่าควรไปเยี่ยมรุ้งหรือไม่ สุดท้ายท่านพิพากษาใหญ่ก็แพ้ใจตัวเอง แต่งตัวเรียบร้อยเตรียมไปทำงานแล้วเดินไปเรือนเล็กตามลำพัง จริมาที่มาถึงทีหลัง แอบมองพ่อคุยกับจันทร์แล้วตัดสินใจเลี่ยงจากไปแต่ไม่ลืมทิ้งถุงขนมไว้หน้าบ้าน พจน์ไม่รู้ตัว อึกๆอักๆแล้วตัดสินใจถามสารทุกข์สุกดิบของจันทร์เป็นครั้งแรก
“ฉันไม่เคยไต่ถามทุกข์สุขเธอเลย ทั้งที่เธอทำให้พวกเราสารพัด ยายริมาเติบโตแข็งแรงก็เพราะเธอช่วยเลี้ยง คุณแม่ก็ได้เธอช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน ฉันเสียใจที่ลูกชายฉันทำตัวยุ่งยาก ฉันคงปล่อยปละละเลยเขาเกินไป”
จันทร์นิ่งเงียบ พจน์มองด้วยความเอ็นดูแล้วปรับสีหน้าเป็นวางเฉย ไม่กล้าออกอาการกลัวเธอจะลำบากใจ
ooooooo
ท่านหญิงแขไขเจิดจรัสเฝ้าดูแลชายเดียวไม่ห่าง อาการเขาดีขึ้นแต่ยังต้องพักผ่อน เธอป้อนยาและถือโอกาสถามเรื่องเขาถูกท่านชายไล่ตะเพิดออกจากห้องเมื่อวันก่อน ชายเดียวสะอื้นฮัก โผกอดแม่และร้องไห้จนเธอแทบขาดใจ ตัดสินใจไปพูดกับสามีตรงๆเพราะไม่อยากให้ลูกเสียใจมากกว่านี้
“เจ้าพี่คิดว่าชายเดียวเป็นลูกใครถึงได้จงเกลียดจงชังแบบนี้ อย่าทรงทำอะไรที่ทำร้ายจิตใจเด็กเลยค่ะ หญิงขอยืนยันว่าชายเดียวเป็นลูกเจ้าพี่กับบุหลัน อย่าสงสัยว่าใครจะเอาลูกโจรมาย้อมแมวเป็นลูกเจ้าพี่เลยค่ะ”
“พี่ไม่ได้ว่าอะไรหญิง อย่าตีตนไปก่อนไข้เลย”
“ตีตนก่อนไข้หรือคะ หญิงจะทำทำไม ไม่ใช่เรื่องราวอะไรของหญิงเลย เจ้าพี่ไม่รักชายเดียวหญิงก็ไม่แคร์ ตัวหญิงเป็นได้แค่แม่เลี้ยง ถ้าพ่อจริงๆไม่ทรงรักและห่วงใย ชายเดียวก็คงเหมือนตัวคนเดียวในโลก”
“จะให้พี่แน่ใจได้ยังไงว่าคนอุบาทว์ชาติชั่วอย่างนังเฟืองจะไม่เอาลูกไอ้อีขี้ข้าที่ไหนมายัดเยียดเป็นหม่อมราชวงศ์”
ท่านหญิงคร้านจะเถียง หมุนตัวออกนอกห้องทันที ท่านชายได้แต่มองตามด้วยแววตาฮึดฮัด ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าผีเฟืองเฝ้ามองจากอีกมุม แค้นใจท่านชายที่บังอาจทำให้ท่านหญิงเสียใจแล้วพาลไปลงกับสาลี่หัวหน้าแม่ครัว คู่ปรับเก่าแก่ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา ประจวบเหมาะสาลี่พูดจาว่าร้ายและแดกดันเธออย่างมันปาก ผ่องผ่านมาได้ยินก็ส่ายหน้าเบาๆ เหนื่อยหน่าย พยายามกล่อมให้อโหสิให้เฟือง
แต่สาลี่ก็ไม่ปล่อยวางแถมถากถางคู่ปรับผู้ล่วงลับอีกหลายยก ทันใดนั้น...หูแม่ครัวใหญ่ก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนแต่ครั้นถามกลับไม่มีใครได้ยิน ชักสังหรณ์แต่ไม่อยากคิดมาก รีบเก็บของกลับเรือน และเมื่อไขประตูเข้าห้องก็ถึงกับหน้าถอดสี ผีเฟืองนั่งคอยในห้องและจ้องมานัยน์ตาแทบถลน ผ่องกับพิกุลกลับมาและส่งเสียงทักทายแต่สาลี่ก็ไม่รู้เรื่อง ร้องโหวกเหวกโวยวายคนเดียวเหมือนคนเสียสติและวิ่งหนีไปข้างนอก
สาลี่เตลิดมาถึงต้นไม้ใหญ่กลางสวน คิดว่าคงหนีพ้นแต่ผิดคาด ผีเฟืองตามมาหลอกหลอนในร่างของพิกุลและหัวเราะเสียงดังด้วยความสะใจที่ทำให้แม่ครัวใหญ่ขนหัวลุกจนสลบ เมื่อฟื้นก็ทนอยู่กับความกลัวไม่ไหวจึงตัดสินใจจะออกจากวัง ท่านหญิงพยายามทัดทานเพราะรู้ดีว่าเฟืองเป็นตัวการแต่แม่ครัวใหญ่ปฏิเสธพัลวัน
“แล้วแกออกไปจะอยู่กับใคร แกเคยเป็นใหญ่ในครัวจะไปเป็นลูกน้องให้ใครจิกหัวใช้”
“แต่หม่อมฉันกลัวเหลือเกินเจ้าประคุณเอ๋ย”
“ตามใจ...มีที่คุ้มหัวไปจนตายจะดิ้นรนหาความลำบากก็ตามใจ...ฉันไม่ขัดแกแล้ว”
สาลี่หน้าเสีย เปลี่ยนใจไม่ไปเพราะเห็นจริงอย่างท่านหญิงว่า เธอคงไม่มีทางหาที่อยู่ได้ดีกว่านี้ ส่วนท่านหญิงก็กลับเข้าห้องด้วยความหงุดหงิด โกรธผีต้นห้องคนสนิทที่บ้าอำนาจแผลงฤทธิ์กับคนทั่ววังจนเธอเหนื่อยจะคอยปลอบ
“ไม่อยากให้เฟืองทำอย่างนั้นเลยนะ ตอนนี้มีทุกข์เต็มที่แล้วจะหาทุกข์มาเพิ่มทำไม ทำคนอย่างนังสาลี่แล้วจะได้อะไร ปล่อยมันไปเถอะ...ก็รู้แล้วว่าไม่ชอบกันมาแต่ตอนนี้มันกลัวหัวหด อีกอย่างขาดมันไปที่นี่ก็เดือดร้อน”
ผีเฟืองยังนิ่ง ท่านหญิงครุ่นคิดแล้วเอะใจ “ไปทำขนาดนั้นทำไม หรือว่าได้ยินท่านชายรับสั่งแล้วพาลลงนังสาลี่”
ลมกระโชกเข้าห้องพัดผ้ามุ้งปลิวไสวเป็นสัญญาณว่าผีเฟืองกำลังโกรธ ท่านหญิงนั่งนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงแววตาเท่านั้นบ่งบอกถึงความวิตก...อย่าทำอะไรอีกเลยนะเฟืองหญิงขอร้อง
ooooooo
ท่านหญิงไม่เจอผีเฟืองอีกเลยหลังจากวันนั้น จนกระทั่งเมื่อชายเดียวเข้ามาอ้อนขอไปเล่นน้ำในคลองหน้าวัง ท่านหญิงใจอ่อนยอมให้ไปแต่ไม่วายรับสั่งให้สน ผ่อง พิกุลและละมัยตามไปดูแล ผีเฟืองอดรนทนไม่ได้ ปรากฏตัวให้เห็นและบอกให้ตามไปช่วยคุณชายที่กำลังจะจมน้ำ
เวลาเดียวกันที่บ้านปัณณธร...รุ้งกับจริมาเล่นน้ำคลองอย่างสนุกสนานแต่เพราะยังว่ายไม่แข็ง จริมาจึงพลัดหลุดไปกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก รุ้งตะโกนขอความช่วยเหลือ จันทร์ พจน์และสารภีวิ่งหน้าตื่นมาแต่ช้ากว่ายอดที่กระโจนลงน้ำอย่างคล่องแคล่วและช่วยคุณหนูคนเล็กของบ้านไว้ได้ทัน
เช่นเดียวกับชายเดียวที่อยู่ในอ้อมอกท่านหญิงอย่างปลอดภัย ร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะความกลัวสุดขีด ท่านหญิงซักไซ้ได้ความว่าสนถูกแก้วบาดใต้น้ำเลยตกใจเผลอปล่อยคุณชายหลุดมือ
“ตกใจยังไงก็ต้องนึกถึงคุณชายก่อน เอ็งเจ็บแค่นี้แต่คุณชายจมน้ำตายเอ็งไม่นึกหรือ ถ้าคุณชายเป็นอะไรไป พวกเอ็งทุกคนต้องรับผิดหมด หาที่อยู่ใหม่ได้เลยไม่ต้องมาเหยียบวังข้าอีก”
ทุกคนก้มหน้างุด ท่านหญิงถอนใจหนักหน่วง “รู้ไว้ซะว่าเฟืองมาเตือนข้า...คนตายแล้วยังเป็นห่วงดูแล พวกเอ็งยังไม่ตายแต่ไม่มีใครห่วงลูกข้า ต่อไปนี้อย่ามาร้องทุกข์ข้าเรื่องเฟืองอีก ถ้าใครกลัวเฟืองนักก็ออกจากวังไปได้เลย!”
ฝั่งบ้านปัณณธรก็วุ่นวายอลหม่านไม่แพ้กัน จันทร์รับตัวจริมามาพาดบ่าให้น้ำไหลจากปาก ครู่ใหญ่เด็กหญิงจึงรู้สึกตัว พจน์ต่อว่าสารภีที่ปล่อยให้เด็กๆว่ายน้ำตามลำพังจนเกือบมีเรื่อง ฉัตต์ไม่สนใจใครตั้งท่าหาเรื่องรุ้งเหมือนเคยว่าจงใจทิ้งน้องสาวให้ไหลไปตามน้ำ จริมาทนไม่ได้ลุกขึ้นมาปกป้องเพื่อนรักจนฉัตต์ของขึ้น พาลไปลงกับเจ้าใบ้
“แล้วแกล่ะ...เป็นใบ้ต้องหูหนวก แกได้ยินได้ยังไง แกวิ่งมาจากไหน”
จันทร์สงสารจึงช่วยพูดว่าเจ้าใบ้ได้ยินแว่วๆเพราะไม่ได้หูหนวกแต่กำเนิด ฉัตต์ยังไม่เชื่อ โวยวายไล่ออกจากบ้านเพราะทำตัวน่าสงสัย จริมาก็ช่วยขอร้องให้เจ้าใบ้อยู่ต่อในฐานะผู้มีพระคุณ เช่นเดียวกับพจน์ที่พยายามกล่อม
“อย่างที่ริมาพูด...เขาช่วยชีวิตน้อง ยังไงเขาก็มีพระคุณ หลายปีที่อยู่ด้วยกันเขาไม่ได้ทำความเดือดร้อนเรา ตรงกันข้าม...เขาทำประโยชน์ให้เราแลกข้าวแต่ละมื้อเท่านั้น” ฉัตต์ยังนิ่ง พจน์ถอนใจยาวและเตือนสติ “อายุแค่นี้คิดแค่นี้ก็ไม่เป็นไร ต่อไปถ้าโตกว่านี้ ถ้าไม่เปลี่ยนความคิด ใจตัวเองจะไม่มีสุขพ่อจะบอกไว้”
ฉัตต์ฮึดฮัดหนีกลับบ้าน ทุกคนมองตามเหนื่อยหน่าย...หวังสุดใจว่าเด็กหนุ่มจะคิดได้
ooooooo
จันทร์สงสารยอดที่ต้องทนรับความเกลียดชังของฉัตต์ หาโอกาสถามถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุจริมาตกน้ำ ยอดบอกว่าเขาเดินแกร่วแถวนั้นจริงเพราะเป็นห่วงรุ้งจึงเข้าไปช่วยทันเวลา จันทร์เข้าใจดีพยายามปลอบไม่ให้คิดมาก
อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 3 วันที่ 1 ก.ค. 56
ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภาละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศ: เร็ว ๆ นี้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ