อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 2 วันที่ 28 มิ.ย. 56
ท่านชายโยนสร้อยไปตรงหน้าเฟืองพร้อมประกาศว่ารู้ทันแผนการตื้นๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่มีร่องรอยใดๆ บนตัวเฟืองทั้งที่อ้างว่าโดนกระชากสร้อยจากคอ ไหนจะขนาดรูปร่างใหญ่โตของแคล้วที่บ่าวไม่น่าทำร้ายได้เฟืองเริ่มนั่งไม่ติดเพราะท่านชายสาวมาใกล้ความจริงทุกขณะ แต่ท่านหญิงยังเชื่อมั่น ออกโรงปกป้องบ่าวคนสนิทเต็มที่“เจ้าพี่...เฟืองไม่โหดร้ายอย่างนั้น ไม่มีเหตุผลที่เฟืองต้องฆ่านายแคล้ว”
“มีสิ...นังเฟืองมันต้องการปิดปากไอ้แคล้ว เรื่องที่พวกมันสมคบกันฆ่าบุหลันกับไอ้ยอด อีเฟืองมันให้ไอ้ยอดผลักบุหลันตกน้ำ ให้ไอ้แคล้วเจาะท้องเรือให้น้ำเข้าเรือจนล่ม ไอ้ยอดจะได้ตายตามกันไป เมียพี่ไม่ได้หนีไปกับไอ้ยอด!”
“ก็มันฉลาดไง ถึงได้เอาลูกบุหลันไว้ล่อพี่ พี่จะได้ไม่เอาเรื่องเพราะรักลูก ถ้าอย่างนั้นมันคงฆ่าทั้งแม่และลูกแล้ว...คนใกล้ตายไม่โกหก นังเฟือง...ไอ้แคล้วสารภาพทุกอย่างก่อนตายหมดแล้ว”
เฟืองเห็นว่าไม่มีประโยชน์จะปกปิดความผิดต่อไป จ้องหน้าท่านชายเขม็งและระบายความคับแค้นใจ
“หม่อมฉันอยากฆ่ามันวันละร้อยหน ดีที่เพิ่งมีโอกาส...ไม่งั้นอีบุหลันคงตายนานมากแล้ว ท่านหญิงจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีก ท่านหญิงทรงดีเกินไป เจ็บพระทัยแค่ไหนก็ไม่เคยปริปากทูลท่านชายว่าไม่มีเมียคนไหนทนได้ที่ผัวพะเน้าพะนอกับหญิงอื่น อีบุหลันตายคนเดียว ท่านหญิงของหม่อมฉันก็จะไม่ทุกข์อีกต่อไป”
ท่านชายชักปืนจากเอวมาตบเฟืองจนเลือดกบปาก ท่านหญิงถลามาห้ามแต่ท่านชายไม่ยอมจะฆ่าเฟืองให้ได้ ท่านหญิงร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิตบ่าวคนสนิทจนเป็นที่เวทนาแก่ผู้คนในวัง เฟืองซึ้งใจมากคลานไปกอดขาท่านหญิง
“ชื่นใจของเฟือง ไม่เสียแรงที่หม่อมฉันรักและภักดี ให้หม่อมฉันรับผิดเถอะมังคะ ถ้าท่านชายจะฆ่าหม่อมฉันให้ตายก็ทรงจำไว้นะมังคะ...ว่าต่อให้หม่อมฉันเป็นผีก็จะปกป้องท่านหญิงตลอดไป”
ท่านหญิงปาดน้ำตา เชิดหน้าบอกสามีว่าไม่มีวันยอมให้เฟืองรับโทษโดยปราศจากหลักฐานและกระบวนการทางกฎหมาย ท่านชายหัวเสียจัด ด่าทอเฟืองลั่นบ้านจนชายเดียวตกใจร้องไห้แต่ท่านชายก็ไม่สนใจ รับสั่งให้เดชกับสนจับเฟืองไปขังรอหลวงวิเศษมารับเช้าวันรุ่งขึ้น ท่านหญิงทนไม่ได้ประกาศกร้าว
“ไหนล่ะหลักฐาน หญิงจะหาทนายให้เฟือง ไม่ต้องกลัว...หญิงไม่ทิ้งเฟืองเด็ดขาด หญิงจะพาเฟืองไปที่ห้องเอง เจ้าพี่ไม่ต้องกลัวเฟืองจะหนี หญิงจะล็อกประตูด้วยมือหญิงเองและจะเอากุญแจมาถวาย”
“ทำไมเธอต้องทำให้ยุ่งยาก ฉันรู้ว่าเธอเจ็บปวด แล้วฉันล่ะ...บุหลันตายไปทั้งคนคิดว่าฉันไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ”
“หญิงดีใจที่เจ้าพี่รู้สึกเจ็บปวด เพราะตลอดเวลาเจ้าพี่ทรงมีแต่ความสุขจนไม่เห็นว่าคนอื่น...โดยเฉพาะหญิงทุกข์ใจมากเพียงใด แต่หญิงไม่โทษเจ้าพี่หรอก คนผิดคือคนโง่อย่างหญิง” ท่านหญิงกริ้วจนลืมทุกอย่าง ระบายความอึดอัดใจที่เก็บมานาน “หม่อมแม่สิ้นหญิงก็ไม่มีใครอีกเลย ความหวังก็อยู่กับเจ้าพี่ แต่เจ้าพี่ทำกับหญิงขนาดนี้ คนเดียวที่พึ่งได้คือเฟือง...เขาภักดีกับหญิงเหมือนทาส เหมือนพี่...เหมือนแม่”
เฟืองสะอื้นฮักด้วยความสะเทือนใจ ท่านหญิงมองมาด้วยแววตาปวดร้าว ยื่นมือให้บ่าวคนสนิทยกทูนเหนือหัว
“เฟืองไม่ร่ำรวย ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์แต่เฟืองไม่เคยผิดคำสัญญากับหม่อมแม่ว่าจะดูแลหญิงถึงที่สุด คำพูดของเฟืองไม่มีน้ำหนักเหมือนใครๆแต่เฟืองก็ไม่เคยผิดคำพูด...ไปกันเถอะเฟือง”
ท่านหญิงพยุงเฟืองออกไปแต่ไม่วายทิ้งท้ายกับสามี “ไม่ทรงนึกว่าหญิงจะพูดใช่ไหมคะ ประเทศนี้หญิงชายแตกต่างกันเหลือเกิน ผู้ชายถูกทุกอย่างแต่ผู้หญิงผิดเสมอ พูดอะไรไม่ได้ต้องนิ่งอย่างเดียว ผู้ชายจะทำให้ช้ำใจก็ไม่มีวันผิด”
ท่านหญิงสู้ตาสามีไม่กลัว ท่านชายได้แต่เลี่ยงมองทางอื่น ปล่อยให้ภรรยาพาเฟืองจากไปโดยไม่เหลียวหลัง
ooooooo
จันทร์คิดถึงลูกชายเหลือเกิน ภาพความทรงจำตอนเฟืองอุ้มเขาหายไปยังเวียนวนในหัว เมื่อยอดแวะมาคุยเลยอดปรับทุกข์ด้วยไม่ได้ ในฐานะพยานคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกันและเข้าใจเธอที่สุด
“ถึงเราไม่ค่อยพบกันแต่ฉันก็เป็นห่วงเสมอ จนถึงวันนี้ก็ไม่ลืมบุญคุณ”
“หม่อมอย่าคิดมากครับ ผมก็ผิดด้วยที่หลงเชื่อนังเฟือง ไม่คิดว่าแกจะใจบาปหยาบช้าขนาดนี้ ไม่รู้มันเพ็ดทูลท่านชายว่าไงบ้าง หม่อมจะกลับวังไหมครับ ผมจะเป็นพยานให้”
“มีประโยชน์อะไร...ถึงกลับไปเขาก็หาทางฆ่าฉันอีก ฉันไม่อยากห่วงหน้าพะวงหลัง”
ยอดเข้าใจสถานการณ์อดีตหม่อมดี สงสารเธอจับใจ อดไม่ได้จะถามถึงคุณชายที่โดนเฟืองพรากจากอก
“ฉันคิดถึงเขาทุกลมหายใจแต่คุณชายคงปลอดภัยเพราะเป็นผู้ชาย เขาต้องการลูกชายฉัน”
ยอดพลอยหดหู่ บ่นเสียดายที่ท่านชายไม่มีโอกาสรับรู้ว่ามีพระธิดาอีกคน จันทร์ถอนใจเบาๆ ไม่แน่ใจในการตัดสินใจของตัวเองเหมือนกันที่ไม่ยอมให้ท่านชายได้พบกับรุ้ง แต่เมื่อเหตุการณ์ไม่น่าไว้ใจเธอก็ไม่อยากเสี่ยง
ยอดเหลือบเห็นฉัตต์มาแต่ไกล ก้มหน้าบอกอดีตหม่อมว่าคุณหนูคนโตของบ้านปัณณธรสงสัยสถานะและความสัมพันธ์ของเขากับเธอ จันทร์ไม่ถือสาเพราะเห็นใจฉัตต์ที่กำพร้าแม่กะทันหัน ปลอบไม่ให้คิดมากและอย่ามองฉัตต์ในแง่ร้าย อดีตคนสวนพยักหน้ารับและขอตัว จันทร์จึงกลับเข้าบ้านไปหารุ้งและโอบกอดไว้ในอ้อมแขน
“ทูนหัวของแม่...แม่ไม่ขออะไรนอกจากให้แม่แข็งแรงมีกำลังเลี้ยงหนูให้เป็นคนดี หนูไม่ต้องร่ำรวยหรือทรัพย์สมบัติมากมายแต่ขอให้มีศีลมีธรรม สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไข้ มีสติปัญญาเล่าเรียนสูงๆ” จันทร์น้ำตาคลอ คิดถึงลูกชายอีกคน “แม่จะขอสิ่งเดียวกันให้พี่ชายหนู แต่เขาจะร่ำรวยอยู่วังใหญ่โตและมีศักดินาสมชื่อ”
ฟากท่านหญิงสอบถามเฟืองเรื่องยอดกับบุหลันอีกครั้ง เฟืองไม่กล้าโกหก สารภาพความจริงโดยไม่ปิดบังแถมโทษว่าเป็นความผิดท่านชายที่ปันใจให้หญิงอื่น ท่านหญิงถอนใจหนักหน่วง เข้าใจความหวังดีแต่ไม่คิดว่าบ่าวคนสนิทจะทำการรุนแรงแบบนี้
“แต่เฟืองต้องไม่ลืมว่าเจ้าพี่รักบุหลันมาก่อนหญิง เขารักกันก่อนถูกบังคับให้แต่งงาน เฟืองไม่น่าทำแบบนั้น”
“เพราะนังบุหลันมันจงใจแย่งท่านหญิง”
“เจ้าพี่ผิดเฉพาะที่ผิดสัญญากับหญิง บุหลันไม่ผิดเพราะเจ้าพี่รับเขาเป็นเมียเอง จะให้เขาทำอย่างไร แต่ยังไงหญิงก็จะทำเพื่อเฟือง เฟืองทำเพื่อหญิงมาตลอด ต่อไปนี้หญิงจะทำเพื่อเฟืองบ้าง”
เฟืองมองไม่เห็นทางเพราะสารภาพต่อหน้าท่านชายไปแล้ว ท่านหญิงให้กำลังใจว่าอย่าท้อเพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยัน เฟืองซาบซึ้งน้ำตาคลอแต่มิวายกลัวเจ้านายสาวจะเสื่อมเสียพระเกียรติ
“หญิงไม่กลัว ใครจะคิดอะไรก็คิดไป หญิงบอกแล้วว่าเฟืองเหมือนญาติ หญิงมีเฟืองคนเดียว”
“เป็นพระกรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้ หม่อมฉันตายไปกี่ชาติก็ขอสาบานจะรับใช้ท่านหญิงทุกชาติ ถ้าแม้ไม่ได้เกิด วิญญาณหม่อมฉันจะอยู่ปกปักรักษาท่านหญิงตลอดไป ทรงจำไว้นะมังคะ”
“ไม่ต้องสาบาน หญิงเชื่อทุกอย่างที่เฟืองพูด”
เฟืองก้มหน้ากอดเท้าท่านหญิงพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น เสียใจที่อาจไม่มีโอกาสได้อยู่รับใช้แล้ว
ท่านหญิงกลับตำหนักและมอบกุญแจห้องเฟืองให้สามีตามสัญญา ระหว่างทางพบกับเดชและทราบความจริงว่าแท้จริงเขาคือนายตำรวจแฝงตัวมาสืบเรื่องเฟือง ท่านหญิงอดแดกดันไม่ได้เพราะเคืองไม่หายที่ใครๆก็รุมจับผิดบ่าวคนสนิท เดชได้แต่ก้มหน้านิ่ง เห็นใจแต่คงไม่ใจอ่อนเพราะยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก
ท่านชายพยายามปรับความเข้าใจกับภรรยาแต่ท่านหญิงไม่สนใจแถมทำหมางเมิน น้อยใจสามีที่เป็นตัวตั้งตัวตีในคดีบุหลันและปักใจหนักแน่นว่าเฟืองเป็นตัวการทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด
“หญิงถามคำเดียว...ถ้าลงโทษเฟืองแล้วต่อมาบุหลันหม่อมคนโปรดของเจ้าพี่กลับมาอาการครบสามสิบสอง เจ้าพี่จะทรงทำยังไง” ท่านชายอ้ำอึ้ง ท่านหญิงได้แต่ถอนใจแล้วบอกความต้องการของเฟือง “เฟืองให้หญิงทูลเจ้าพี่ว่าพรุ่งนี้หลวงวิเศษมารับตัวเขา เขาจะรู้สึกเป็นเกียรติมากถ้าเจ้าพี่จะเปิดประตูห้องเขาด้วยพระองค์เอง”
ท่านชายแปลกใจแต่ไม่อยากซักไซ้ให้ภรรยาไม่พอใจมากไปกว่านี้ รับปากง่ายๆและขอตัวกลับห้อง
ooooooo
ท่านหญิงไปหาหม่อมเจ้าอัปสราภาหรือท่าน หญิงเล็กน้องสาวคนละแม่เพื่อปรึกษาเรื่องหาทนาย เห็นคุณหญิงทอแสงรัศมีหลานสาวรุ่นราวคราวเดียวกับชายเดียวก็อดเอ็นดูไม่ได้ ซักถามถึงการเลี้ยงดูพักใหญ่จึงเข้าเรื่องสำคัญ
ท่านหญิงเล็กรับปากจะสอบถามท่านวรจักรผู้เป็นสามีให้แต่ไม่วายบ่นพี่สาวเรื่องพฤติกรรมเจ้าชู้ของท่านชาย แม้จะรู้กันดีและเคยเตือนหลายครั้งแต่ท่านหญิงยังวางเฉย ไม่ยอมปล่อยวางจนเฟืองต้องทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้
“พี่หญิงจะทรงคิดเปลี่ยนประเพณีที่เขาทำกันมาตั้งแต่มีประเทศไทยเหรอ อีกห้าร้อยปีคงทำได้”
ท่านหญิงแขไขฯเถียงว่าไม่เคยเจอแบบนี้กับตัวก็ไม่มีวันรู้ ท่านหญิงเล็กไม่หวั่น ถ้าตราบใดเธอยังเป็นที่หนึ่งในใจสามี อีกกี่ร้อยหญิงเธอก็ไม่สนใจ
“พี่หญิงจะปฏิวัติเหรอคะ อย่าคิดเลยค่ะ เหนื่อยเปล่าแถมจะยิ่งเสียใจ ถ้าเราโวยวายเขาก็ยิ่งแสดงว่าไม่รักเรา เผลอๆเขาก็จะแสดงว่าเขาเกลียดเราด้วยซ้ำ”
ท่านหญิงสะกดกลั้นอารมณ์คุกรุ่นที่โดนพูดแทงใจดำ ท่านหญิงเล็กส่ายหน้า เหนื่อยใจจะเตือนเพราะรู้ว่าพี่สาวไม่เปิดใจ ได้แต่มองตามเซ็งๆ...หยิ่งไปเถอะพี่หญิง ช้ำใจแล้วอย่ามาคร่ำครวญก็แล้วกัน!
บรรยากาศบนรถอึมครึมกว่าเมื่อขามา พิกุลกล้าๆ กลัวๆแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจถามด้วยความเป็นห่วง ท่านหญิงหลับตาลงช้าๆ พยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่ถามขึ้นเบาๆ
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก...พิกุล สน...แกสองคนไม่ชอบเฟืองใช่ไหม คนทั้งวังรังสิยาไม่ชอบเฟือง ฉันรู้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ ทำไมหรือ...เพราะแกคิดว่าคนที่น่าจะเป็นหม่อมเอกของท่านชายคือบุหลันใช่ไหม” สองบ่าวอึกอัก ได้แต่ก้มหน้างุด ท่านหญิงจึงถือว่ายอมรับ “ตอนนี้ทุกคนคงดีใจที่เฟืองมีเคราะห์กรรมอย่างนี้
เฟืองทุกข์ที่ท่านชายรับบุหลันเป็นหม่อมเพราะเขารักฉัน แต่พวกแกมีความสุขที่ท่านชายมีเมียน้อยเพราะพวกแกรักท่านชาย”
สองบ่าวหายใจไม่ทั่วท้องเพราะไม่เคยเห็นเจ้านายสาวมีท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้ ได้แต่เฝ้าดูท่านหญิงนั่งนิ่งเหม่อมองทางกระจกข้างจนถึงวัง หวั่นลึกๆว่าเรื่องเฟืองคงกลายเป็นบาดแผลใหญ่ของวังรังสิยาไปอีกนาน
เฟืองเองก็ทุกข์ใจเพราะเป็นห่วงท่านหญิงไม่ต่างกัน กลัวว่าหากตนจากไปแล้วจะไม่มีคนดูแล ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างโดยลงมือเขียนจดหมายสั่งเสียถึงท่านหญิง เมื่อผ่องมาเยี่ยมจึงคาดคั้นให้รับปากคอยรับใช้ไม่ให้ใครมาทำร้ายพร้อมกำชับให้ส่งมอบจดหมายให้ท่านหญิงเมื่อตนจากวังไป
“ผ่องอย่าลืมสัญญา ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ข้าเหมือนคนที่ตายไปแล้ว สัญญากับคนตายเอ็งอย่าละเลย”
ผ่องนิ่วหน้ากับคำพูดเหมือนลาไปตายแต่ไม่อยากคิดมาก รับปากจะปรนนิบัติท่านหญิงให้ดีเหมือนตอนเฟืองยังอยู่
ooooooo
และแล้วเช้าวันสำคัญก็มาถึง...ท่านหญิงนั่งมองชายเดียวบนเปลด้วยแววตาอ่อนโยน แม้รู้ว่าเด็กน้อยเป็น สายเลือดของศัตรูหัวใจคนสำคัญอย่างบุหลันแต่เธอก็รักสุดหัวใจเท่าที่คนเป็นแม่จะรู้สึกได้ เมื่อผ่องมารายงานว่าหลวงวิเศษพาตำรวจหลายนายมาคุมตัวเฟือง ไปโรงพักก็พยักหน้ารับรู้ หวังลึกๆว่าบ่าวคนสนิทจะพ้นข้อกล่าวหา
อ่านละคร แค้นเสน่หา ตอนที่ 2 วันที่ 28 มิ.ย. 56
ละครแค้นเสน่หา บทประพันธ์โดย : วราภาละครแค้นเสน่หา บทโทรทัศน์โดย : อ.แดง ศัลยา
ละครแค้นเสน่หา กำกับการแสดงโดย : สำรวย รักชาติ
ละครแค้นเสน่หา ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครแค้นเสน่หา ควบคุมการผลิตโดย : วรายุทธ มิลินทจินดา
ละครแค้นเสน่หา ออกอากาศ: เร็ว ๆ นี้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ