อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 7 วันที่ 1 ม.ค. 56
เสียงนาฬิกาปลุกดัง เมฆรีบตื่นขึ้นมาเพราะนึกได้ว่าตะวันฉายไม่อยู่ รีบออกไปจะปลุกหมอกได้ยินเสียงหัวเราะร่าของลูกกับอิงฟ้า พอหมอกเห็นเขาก็ร้องเรียกให้มาเล่นด้วยกัน และอ้อนให้แต่งตัวให้ หมอกกอดคอเมฆกับอิงฟ้าทำให้ทั้งสองหน้าแทบชิดกัน เมฆใจเต้นรัวพอมีโอกาส อิงฟ้ากระซิบ “ขอบคุณที่ให้โอกาสฟ้าได้อยู่กับลูก ฟ้ารู้แล้วว่าคงจะไม่มีวันเอาชนะใจเมฆได้ แต่ฟ้าไม่เสียใจนะ เพราะตอนนี้ฟ้ารู้แล้วว่า ความสุขของฟ้า มันไม่ได้อยู่ที่เมฆรักฟ้าหรือเปล่า แต่มันอยู่ที่ฟ้าต้องการจะรักเมฆตลอดไป...หมอกเขาสอนให้ฟ้าคิดแบบนี้”
อิงฟ้าเห็นเมฆอึ้งๆจึงรวบรัดว่า จะออกไปส่งลูก ที่โรงเรียนด้วยกัน แล้วแวะซื้อของมาทำทานกลางวัน ถ้าเขาไม่ไปไหนก็อยู่ทานฝีมือตน เมฆยิ้มฝืนๆ...ระหว่างเดินเลือกของในซุปเปอร์ อิงฟ้าพยายามใกล้ชิดเมฆ
มากขึ้น จูงมือเขาเลือกของต่างๆ จนบางครั้งเมฆเผลอยิ้มไปด้วย
กลับมา เมฆนั่งทำงาน คิดเนื้อเพลงไม่ออก ครุ่นคิดถึงอดีต...ทุกครั้งที่แต่งเพลงไม่ออก ถ้าอิงฟ้ามาหา เขาจะคิดออกทุกครั้ง จนเพื่อนๆแซวว่า อิงฟ้าเป็นแรงบันดาลใจให้เขา
ในขณะที่ตะวันฉายยังหาทางกลับไปบ้านเมฆไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่ไม่ยอมกลับ อยู่เที่ยวกรุงเทพฯ โดยมียุทธการเป็นไกด์พาเที่ยว จนเธอต้องโทร.ไปขอร้องเอวาหาทางช่วยที เอวาตัดสินใจโทร.ไปที่ซันไรส์บีชรีสอร์ท ด้วยน้ำเสียงหวาน ไม่ทันไรก็โวยวายต่อว่าการบริการยกใหญ่ จนคนที่รับสายพูดไม่ออก...
ระหว่างนั้น ยุทธการพาเกริกไกร สายรุ้ง และตะวันฉายชมวัดที่สวยงาม ตะวันฉายทำฟอร์มถ่ายรูปด้วยมือถือ ยุทธการจะช่วยถ่ายให้ เธอปฏิเสธว่าถ่ายหมดแล้ว
“ว้า...พระเอกคนนี้ไม่ค่อยได้ช่วยนางเอกเลย”
“ก็ช่วยดูแลพ่อแม่นางเอกไง”
“พี่ช่วยดูแลตลอดชีวิตเลยนะ” ยุทธการได้ทีปล่อยมุกจีบ
“เอ่อ...พี่ยุทธ ในวัดนะพี่ในวัด” ตะวันฉายขัด สองคนหัวเราะเขินๆ
เกริกไกรกับสายรุ้งเห็น บ่นเสียดายที่ดูสองคนนี้เหมาะสมกัน แต่ทำไมลูกสาวถึงบอกว่าไม่ได้ชอบยุทธการ แต่ก็ยังมีความหวังว่าสักวันหนึ่งลูกจะเห็นความดีของหนุ่มคนนี้ สองคนยังเข้าใจว่าตลอดเวลาที่ตะวันฉายอยู่กรุงเทพฯ ค้นหาข้อมูลมาเขียนเรื่อง มียุทธการเป็นคนคอยพาไปไหนต่อไหน ยุทธการเองเออออไปด้วย ไม่ทันไร...อ้อโทร.เข้ามาแจ้งกับเกริกไกรว่า
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ เมื่อกี้มีแขกโทร.มาวีน เธอด่ากระหน่ำไม่มีชิ้นดีเลยค่ะ ติทุกอย่างตั้งแต่บันไดขั้นแรก ล็อบบี้ สระน้ำ ห้องพัก ห้องน้ำ อาหารยันน้ำทะเล เธอยังบอกเลยค่ะว่าทำไมน้ำทะเลหน้ารีสอร์ทเราเค้มเค็ม”
เกริกไกรถามว่าแขกที่กำลังพักอยู่หรือ อ้อตอบว่า โทร.เข้ามาบอกว่าพรุ่งนี้จะกลับมาพักอีก ต้องการให้เกริกไกรกับสายรุ้งคอยต้อนรับ แต่ตนเช็กลูกค้าวีไอพีแทบทุกคนแล้ว อยู่ครบทุกห้อง ไม่ทราบว่าจะเป็นลูกค้าจากที่ไหน เกริกไกรจึงรับปากว่าจะรีบกลับ ตะวันฉายแอบถอนใจ
ooooooo
เห็นเก่งเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงาน เมฆจึงเลี่ยงออกมา ผ่านห้องตะวันฉายคิดอยากเข้าไปสำรวจ เขาเริ่มมองไปรอบห้อง เห็นการจัดวางทุกอย่างเรียบร้อยดี ดึงลิ้นชักออกมาเจอโน้ตบุ๊ก มีกระดาษเล็กๆแปะอยู่ เขียนข้อความว่า...ไม่สำคัญว่าจะทำได้ แต่สบายใจที่ได้ทำ
เมฆอมยิ้ม นึกถึงคำบอกเล่าของเกริกไกรที่ว่า ลูกสาวอยากเป็นนักเขียน ขอลาไปทำตามความฝัน ช่วงนี้ออกหาข้อมูลจึงไม่ค่อยได้เจอหน้าลูกสาวเท่าไหร่...เมฆเปิดเครื่องคอมพ์ เห็นชื่อนิยายว่า แองเจิลการ์เด้น ก็ยิ้มขำความหมายที่ว่า สวนนางฟ้า เขาตั้งหน้าอ่านเนื้อเรื่อง
“มีตัวร้ายชื่อเมฆด้วยเหรอเนี่ย ชักจะไปกันใหญ่ เธอนั่นแหละร้าย ไม่ใช่ฉัน”
เมฆปิดคอมพ์เก็บเข้าที่ด้วยความแปลกใจว่า ตะวันฉายมาอยู่บ้านตนเพื่อจะเขียนนิยายเท่านั้นหรือ...เห็นเมฆหายไป อิงฟ้าเดินหาทั่วบ้าน ถามเก่งก็บอกว่าเห็นอยู่ห้องทำงานตั้งแต่เช้า เธอเดินกลับไปดูใหม่ไม่มี จึงขึ้นไปข้างบนแล้วต้องชะงัก เมื่อเห็นเมฆออกมาจากห้องตะวันฉาย
ด้านตะวันฉาย กอดล่ำลาพ่อกับแม่หน้าคอนโดฯ ส่งขึ้นรถลีมูซีนออกไป ยุทธการกระเซ้าว่าน่าจะให้คุณอาทั้งสองมากรุงเทพฯบ่อยๆ ตนจะได้เจอเธอบ่อยขึ้น ตะวันฉายค้อนขวับ
“ถ้าไม่อยากให้แซว คืนนี้ก็ต้องไปดินเนอร์กับพี่สิ ไหนๆก็ลางานแล้ว ไปกันนะแล้วไปฟังเพลงต่อ” เห็นสีหน้าหญิงสาวแล้วสงสัย “มีอะไรเหรอซัน”
“คือ...ซันอยากทำงานน่ะ”
“งานเขียนน่ะเหรอ ก็ทำพรุ่งนี้สิ”
“พี่ยุทธ ไว้คราวหน้าได้ไหม” ตะวันฉายเสียงอ่อน
ยุทธการรู้ทันทีว่าผิดหวัง จึงยอมล่าถอยกลับออกมา...ตะวันฉายรีบขึ้นห้อง แปลงร่างเป็นซัน เก็บข้าวของจำเป็นใส่เป้ เผอิญทำแว่นตกแล้วพลาดเหยียบหัก เธอตกใจจะทำอย่างไรดี
ooooooo
ที่สำนักงานที่ดิน จ่าสมมาค้นหาว่าหญิงสาวที่ออกหน้าซื้อบ้านให้เฮลมุทเป็นใคร แล้วก็ได้พบรูปอิงฟ้าก็ตกใจ จึงรีบโทร.ไปสอบถามที่ ป.ป.ส. ซักถามคดียาเสพติดคดีหนึ่ง...จ่าสมนำแฟ้มนั้นกลับมา เขาดึงสำเนาบัตรประชาชนของอิงฟ้ามาฉีกทิ้งด้วยสีหน้าเครียด...
เมื่อผิดหวังจากตะวันฉาย ยุทธการไม่รู้จะไปไหนเลยมาสำนักงาน เจอจ่าสมจึงถามเรื่องที่ให้ไปสืบจากเพื่อนที่ทำงานกรมที่ดิน จ่าสมตอบอึกอักยังไม่ได้หลักฐาน ยุทธการแปลกใจมันไม่น่าจะยาก พลัน สายรุ้งโทร.เข้ามาถามว่ายังอยู่กับตะวันฉายหรือเปล่า เขาตอบว่าแยกกันแล้ว
“พอดีอาหากระเป๋าเงินไม่เจอ ไม่รู้ตกอยู่ในรถยุทธบ้างรึเปล่า อาโทร.หาซันก็ไม่ติด”
“งั้นเดี๋ยวผมดูให้นะครับ แล้วยังไงผมจะเอาไปฝากไว้ที่ซันนะครับ”
ในขณะนั้น เอวากับนิคยืนรออยู่หน้าคอนโดฯกระวนกระวายทำไมตะวันฉายยังไม่ลงมาอีก เดี๋ยวพวกตนไปเล่นดนตรีไม่ทัน โทร.ขึ้นไปหาก็ไม่เปิดเครื่อง...ยุทธการถือกระเป๋าสตางค์ของสายรุ้งมา เห็นนิคกับเอวาก็จะเข้าไปหา ตะวันฉายเดินเข้ามาในสภาพของซัน ร้องทักนิคกับเอวา ยุทธการตะลึงตัดสินใจเดินไปใกล้ ทั้งสามคนแทบช็อก เขาเอ่ยถาม...ซันใช่ไหม
ทุกคนขึ้นมาบนห้อง เอวากับนิคมองตะวันฉายกับยุทธการที่ออกไปคุยกันตรงระเบียง
“ฉันว่าคราวนี้พวกเราตายยกรังแน่เลยว่ะ”
“ถ้าแกเป็นพี่ยุทธ แกจะทำยังไงกับเรื่องนี้”
นิคตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่ยุทธการและที่สำคัญไม่ได้รักตะวันฉาย เอวามองนิคงงๆ...ด้านยุทธการพอรู้ว่าตะวันฉายไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเพราะหาข้อมูลมาเขียนนิยาย ก็ไม่อยากเชื่อ มันน่าจะแค่สัมภาษณ์คนที่ทำอาชีพนี้ก็พอ เธอโต้ว่าทำด้วยตัวเองดีที่สุด
“ซันก็เลยต้องปิดทุกคน แม้แต่อาเกริกกับอารุ้ง”
“ก็ถ้าซันบอกว่าจะไปทำอะไร พี่ยุทธคิดว่าพ่อกับแม่จะยอมเหรอ”
“ก็จริงนะ ขนาดพี่ยังไม่ค่อยอยากจะเห็นด้วยเลย แล้วนี่ซันต้องปลอมถึงเมื่อไหร่”
ตะวันฉายตอบว่าคงไม่นานและขอร้องอย่าบอกพ่อกับแม่ตน ยุทธการรับปากแต่มีข้อแม้ต้องให้ตนรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนกับใคร...พอเอวารู้ว่ายุทธการจะเป็นคนส่งตะวันฉายกลับบ้านเมฆ ก็สะเทือนใจนิดๆ แต่กลบเกลื่อนว่าดีแล้ว เพราะตนจะได้ไม่ต้องตื่นเช้า นิครู้ว่าเอวาเสียใจ แถมหลังจากเล่นดนตรี ยังถูกเมฆเหน็บ เมื่อเธอบอกเขาว่าซันจะถึงบ้านเช้าตรู่
“เอวานี่สนิทกับซันดีเนอะ อยากรู้อะไรเรื่องซันถามเอวาได้หมด นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นนายจ้าง พี่คงนึกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันนะเนี่ย” ...ทำเอาเอวาจ๋อยเข้าไปอีก
ooooooo
วันรุ่งขึ้น ยุทธการมาส่งตะวันฉายในสภาพชายหนุ่มที่บ้านเมฆ เขาเดินตามส่งถึงที่โดยจอดรถไว้ห่างบ้าน ย้ำกับเธอห้ามปิดมือถืออีก ตะวันฉายกลัวคนในบ้านเห็น ไม่ทันไร เมฆขับรถกลับมาบีบแตรถาม “คุยกับใครน่ะซัน...อ้าว...นี่คุณ...”
ตะวันฉายหน้าซีด จำต้องแนะนำให้เมฆรู้จักว่า ยุทธการเป็นญาติผู้พี่ เมฆรู้แกวแกล้งถาม
“ขอโทษนะครับ แล้วอย่างนี้เป็นชาวนาเหมือนครอบครัวซันหรือเปล่า”
อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 7 วันที่ 1 ม.ค. 56
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวินตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ