อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 19 ธ.ค 2555
“พวกที่มางานเป็นใครกันบ้างล่ะคุณต้น”“เห็นคุณพิมว่ามีคู่ค้า
คือกลุ่มร้านค้าที่นารีนำสินค้าไปลงช็อปกับกลุ่มลูกค้าวีไอพีที่มียอดสั่งซื้อเกินแสนต่อปีขึ้นไปน่ะครับ”
“มิน่าถึงลงทุนจัดงานขนาดนี้”
ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาในงาน มีพนักงานมาคอยเดินเสิร์ฟเครื่องดื่ม การะเกตุเดินพาเอกพลเข้ามาในงาน ภัทรพลหันไปเห็นพอดี
“ไอ้เอกพล มันมางานนี้ได้ยังไง”
ฤชวีมองเอกพลที่เดินเคียงคู่กับการะเกตุ สุกัญญากำลังทักทายแขกในงานหันมาเห็นการะเกตุแล้วชะงักที่เห็นเอกพล
“สวัสดีครับคุณสุ”
สุกัญญาเห็นว่ามากับการะเกตุก็เก็บอาการยิ้มให้
“สวัสดีค่ะคุณการะเกตุ”
“งานน่าสนใจดีนะคะ”
“วันนี้เราจะเปิดตัวสินค้าใหม่ของนารี คุณการะเกตุเชิญทดลองสินค้าสิคะ”
“มาตรฐานของสินค้านารี ไม่แพ้แบรนด์ระดับท็อปของต่างประเทศเลยนะครับ จริงมั้ยครับคุณสุ” เอกพลมอง อย่างสะใจประมาณว่าวันนี้สุกัญญาต้องเกรงใจตัวเอง สุกัญญาไม่พอใจแต่ต้องยิ้มรับฝืนๆ
“ตามสบายนะคะ”
การะเกตุยิ้มแล้วเดินไปที่บูธลิปสติก longtime เอกพลเห็นกลุ่มลัลนาก็แยกตัวไม่ตามเข้าไป สุกัญญามองเอกพลอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
ตรีวิญเดินเข้ามา สุกัญญาพาตรีวิญไปแนะนำกับคู่ค้า สุกัญญามองนาฬิกาข้อมือแล้วหันมาพยักหน้าให้ซูซี่มาหา ซูซี่เดินเข้ามา
“ซูซี่ ลัลกับพิมล่ะ”
“คือ สองคนนั้นเขา...มาโน่นแล้วค่ะ”
สุกัญญาหันมอง ทุกคนในงานก็หันมองเพราะเสียงฮือฮาจากหน้าประตู
ที่หน้าประตู ลัลนากับพิมภาในชุดสวยขนาดกินกันไม่ลงเดินตู่กันเข้ามา ฤชวี ตรีวิญมองพิมภาตะลึงกับความสวยจัดเต็ม ภัทรพลมองลัลนาอย่างถูกใจ พิมภาเห็นฤชวีมองก็เชิดงอนใส่เดินไปที่บูธตัวเอง ฤชวีเซ็งแต่ก็งอนเหมือนกัน
เอกพลที่อยู่กับการะเกตุเห็นพิมภายิ่งเสียดายจึงมองเธอ ประมาณว่าจะต้องเอาคืนมาให้ได้
“สองคนนั้นเป็นใคร เดินเปิดตัวอย่างกับเจ้าของบริษัท” การะเกตุถามเอกพล
“แบรนด์เมเนเจอร์ของนารีครับ”
การะเกตุไม่ถูกชะตา เพราะสองสาวสวยกว่าจึงพาลหมั่นไส้
“ทำตัวโดดเด่น เรียกร้องความสนใจ”
การะเกตุมองความโดดเด่นของพิมภากับลัลนาอย่างหมั่นไส้
พิมภาเดินเข้ามาที่บูธเห็นว่ามีลูกค้ากับคู่ค้าอยู่ที่บูธมากกว่าบูธของลัลนาเกือบครึ่งนึง คุณจี๋ คู่ค้าเข้ามาหาพิมภา พิมภายิ้มแย้มต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ คุณจี๋ แป้งวิงค์ตัวนี้เจาะกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน ถ้านำไปลงช็อปที่ภาคเหนือของคุณจี๋รับรองว่าต้องฮอตแน่ๆ”
“สินค้าคุณพิมรับผิดชอบไม่เคยทำให้จี๋ผิดหวังอยู่แล้ว ปีที่แล้วจี๋สั่งไปเท่าไหร่ก็ขายหมดจนต้องสั่งมาตุนไว้”
“ยินดีค่ะที่สินค้าของนารีทำให้คุณจี๋พอใจ”
ลูกค้าหลายคนเข้ามาหาพิมภาทักทายอย่างสนิทสนม
ทางด้านบู๊ทลัลนา ลัลนาก็ต้อนรับลูกค้ากับคู่ค้าอย่างขยันขันแข็ง แต่จำนวนคนที่เข้าหาลัลนาก็น้อยกว่าพิมภา
“ถ้าน้องลัลมีลูกค้าเท่ากับน้องพิมคงสบายกว่านี้เยอะ”
ซูซี่กระซิบกับลัลนา ลัลนาหันมามองซูซี่อย่างตำหนิ ซูซี่เนียนเดินไปต้อนรับลูกค้า ลัลนามองไปทางพิมภากำมือแน่นด้วยความอิจฉา
สุกัญญายืนอยู่กับตรีวิญมองการทำงานของพิมภากับลัลนา
“ดูลูกค้าส่วนใหญ่จะให้ความสนใจคุณพิมนะครับ”
“พิมขยันลงพื้นที่ เข้าถึงลูกค้าทุกระดับ ความคิดก้าวหน้ามองข้ามช็อตเสมอ ปีที่แล้วก็ได้จัดอันดับหนึ่งในสิบ นักการตลาดหน้าใหม่ของนิตยสารมาร์เก็ตติ้ง”
“ดูคุณสุจะให้ความไว้ใจคุณพิมมากนะครับ”
“พิมเป็นคนทำงานเพื่องาน ไม่ใช่ทำงานเพื่อเอาหน้า พี่ชอบคนแบบนี้”
ตรีวิญมองพิมภารู้สึกสนใจพิมภามากขึ้น
การะเกตุยืนอยู่ที่บูธลิปสติก ซูซี่ จุ๋มจิ๋มกับลิลลี่กำลังเอาลิปสติกเบอร์ต่างๆ ให้ลูกค้าทดลอง การะเกตุทาที่มือมองแล้วไม่ชอบ
“เบอร์นี้มันจืดไปหน่อยนะ ฉันอยากได้เข้ม แรงกว่านี้”
“เบอร์ 7 มั้ยคะ จะออกโทนแดง”
การะเกตุลองทาที่มือดู แล้วบอกเสียงดัง
“ไม่ล่ะ ถ้าทาออกมาคงคิดว่ากินเลือด”
จุ๋มจิ๋มกับลิลลี่หน้าเสีย ซูซี่ได้ยินเข้ามาช่วย
“งั้นเบอร์ 5 สิคะ จะอมส้มนิดๆ ไม่แดงจนเกินไป”
การะเกตุลองทาที่มือดู ยิ่งไม่ชอบ
“ฉันว่าสีมันเหมือนหมากนะ ดูยายมาก”
ลูกค้าที่ทดลองพากันฟังการะเกตุที่เลือกๆ เริ่มวางตัวอย่าง ลัลนาได้ยินหันมองเห็นซูซี่ ลิลลี่กับจุ๋มเริ่มเลิ่กลั่กลัลนาเข้ามารับหน้า
“รูปปากสวยอย่างคุณ ทาสีไหนก็สวยค่ะ แต่ลัลว่าคุณดูสวยใส เป็นเบอร์ 2 ดีกว่านะคะ อมชมพู ลองทากับริมฝีปากดูสิคะ”
ลัลนาเอาแปรงทาแกะใหม่ให้การะเกตุ การะเกตุทาแล้วส่องๆ ดู
“ถูกของเธอ เหมาะกับสวยใสๆ อย่างฉัน”
การะเกตุเดินเชิดๆ ไป ซูซี่มองตามอย่างหมั่นไส้
“จะเยอะไปไหน สวยใส ๆ อย่างฉัน”
“พี่ซูซี่เก็บอาการหน่อยค่ะ ลูกค้าคือพระเจ้านะคะ” ลัลนามองไปเห็นสุกัญญายืนคุยกับพิมภา นันทิกานต์ “พี่ซูซี่ เรื่องเซเล็บที่จะมาสัมภาษณ์คู่กับคุณตรีวิญมาหรือยังคะ”
“ป่านนี้ไปนั่งดูปลาโลมาสีชมพูที่ขนอม เมืองนครฯแล้วล่ะค่ะ”
“งั้นลัลต้องไปปั่นสักหน่อย”
ลัลนายิ้มพอใจเดินไป
สุกัญญาถามความเรียบร้อยกับพิมภา นันทิกานต์
“ทุกอย่างเรียบร้อยนะ วันนี้สื่อมวลชนมาเยอะ คงโปรโมทได้มากอยู่”
พิมภากับนันทิกานต์อ้ำอึ้ง ลัลนารีบเข้ามาทันที
“พิมจ๊ะ คุณวรุฒน์เซเลบฯที่จะมาคุยบนเวทีกับคุณตรีวิญมาหรือยังจ๊ะ ลัลจะได้คุยสคริปต์กับแขก” สุกัญญาหันมาหาพิมภา พิมภากับนันทิกานต์มองหน้ากันเครียด “ว่ายังไงจ๊ะพิม คุณวรุฒน์ล่ะจ๊ะ”
พิมภามองลัลนาอย่างไม่พอใจมั่นใจว่าเป็นฝีลัลนาแน่ ลัลนายิ้มเย้ยว่าเสร็จแน่ นันทิกานต์พยายามคิดหาทางออก แล้วสายตานันทิกานต์ก็มองเห็นฤชวีที่กำลังจะเดินออกไปกับภัทรพล นันทิกานต์ปิ๊งไอเดีย
“เราเปลี่ยนแขกรับเชิญกะทันหันค่ะ แต่แขกมาถึงแล้วค่ะ” พิมภาหันมองนันทิกานต์ว่าหมายถึงใคร “แนนกับพิมขอไปต้อนรับแขกก่อนนะคะ”
นันทิกานต์ดึงพิมภาไป
“งั้นลัลขอไปเช็กสคริปต์ก่อนนะคะ”
ลัลนาทำเนียนเดินตามไป
นันทิกานต์ลากพิมภาให้เดินตามฤชวี
“ไอ้แนนแกจะลากฉันไปไหน แขกที่ไหนของแก”
ฤชวีกำลังเดินออกไปด้านนอกกับภัทรพล
“คุณต้นคะ”
ฤชวีกับภัทรพลชะงักทั้งคู่ นันทิกานต์ลากพิมภาเข้าไปหา
“แนนกับพิมมีเรื่องจะขอให้ช่วยค่ะ”
“ช่วยอะไรครับ”
“ช่วยขึ้นเป็นแขกรับเชิญบนเวทีคุยกับคุณตรีวิญบนเวทีน่ะค่ะ”
“ไอ้แนน คุณต้นไม่ได้เป็นไฮโซอะไรนะ” พิมภากระซิบกับนันทิกานต์อย่างตกใจ นันทิกานต์จึงเถียง
“แต่คุณต้นเป็นนักเขียนนะ อาชีพน่าสนใจ แล้วโปรไฟล์เรื่องงานก็จี๊ดอยู่ คุณต้นมีหนังสือนิยายที่ตีพิมพ์ต่างประเทศด้วยใช่มั้ยคะ”
“ครับ”
“นั่นไง เข้าล็อคเป๊ะ ทัศนคติผู้ชายที่แตกต่างจากคุณตรีวิญ นักธุรกิจกับศิลปิน อืม คุณต้นก็เหมาะดีนะ”
พิมภาคิด ๆ มองฤชวีตอนแรกว่าจะไม่ขอร้องเพราะเพิ่งโวยไปเมื่อกลางวันว่าจะไม่ง้อ ฤชวียืนมองว่าพิมภาจะเอายังไง
“ไอ้พิม เราไม่มีเวลาแล้ว”
พิมภาตัดสินใจง้อ
“คุณต้นช่วยฉันหน่อยได้ไหม”
ฤชวียังงอนอยู่แต่ไม่เคยปฏิเสธพิมภา
“ถ้าคิดว่าผมช่วยได้ผมก็จะช่วย”
นันทิกานต์หันไปดีใจกับพิมภา แต่พิมภาไม่แน่ใจว่าฤชวีจะช่วยได้ไหม
“แฟนเราถ้าไม่กำราบ โดนสุนัขคาบไปรับประทานจะแย่นะ” ภัทรพลกระซิบกับฤชวี ฤชวีมองพิมภาคิดตามที่ภัทรพลพูด
ลัลนาที่แอบฟังอยู่ยิ้มร้ายก่อนจะเดินออกไป ภัทรพลเห็นลัลนาที่มาแอบฟัง ภัทรพลมองตามลัลนาแล้วคิดถึงสิ่งที่ลัลนาขอให้ช่วย ภัทรพลมองฤชวีอย่างตัดสินใจ
ลัลนาเดินจะไปเข้าประตูห้องจัดเลี้ยงอีกทาง แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อเดินมาเจอการะเกตุกำลังจูบกับเอกพลในมุมมืด
“อุ้ย” เอกพลชะงักหันมาตกใจที่เห็นลัลนา ลัลนามองอย่างเหยียดๆ “ไม่เลือกที่กินเลยนะ”
การะเกตุหันมา พอลัลนาเห็นก็ยิ่งอึ้ง ลัลนาส่ายหน้าสมเพชแล้วเดินเข้างานไป
“ส่ายหน้าใส่ฉันเหรอ” การะเกตุโมโหจะตามไปเล่นงานลัลนา
“คุณจะไปไหนครับ” เอกพลรีบถาม
“สั่งสอนคน”
การะเกตุเดินเข้าไปในงาน
ลัลนากลับมาที่บูธ การะเกตุก้าวตามเข้ามา การะเกตุเสียงดังใส่จุ๋มจิ๋มกับลิลลี่
“ลิปสติก longtime ไม่เห็นจะติดทนนานอย่างที่บอกเลยสักนิด ฉันทาไปแป๊บเดียวสีก็จางแล้ว”
ลัลนาหันมามองการะเกตุ รู้ว่าการะเกตุจงใจตามมาหาเรื่อง
“ลิปสติก longtime ติดทนนานมากนะคะ คุณเทสต์มาแล้วนี่ว่าแม้จะผ่านเหตุการณ์ตื่นเต้นแค่ไหน แต่ลิปสติกก็ยังติดทนไม่ลบเลือน”
“คุณลูกค้าเทสต์ด้วยวิธีไหนเหรอคะ” ซูซี่ถามแทรกขึ้นมา ลัลนามองการะเกตุอย่างท้าทาย
“แบ่งปันประสบการณ์กันสิคะ จะได้เป็นเคสตัวอย่าง” ลัลนาบอกพร้อมกัยิ้มเยาะ
การะเกตุเถียงไม่ออก พอเห็นทุกคนมองมาก็สะบัดหน้าไปทางบูธของพิมภา ลัลนามองตามอย่างดูถูก
“ยัยนี่มันเยอะจริงๆ”
ลัลนากำลังจะหันมาดูแลลูกค้าแต่ชะงักที่เห็นภัทรพลเดินยิ้มเข้ามาหา
“เรื่องพิม ที่คุณลัลขอให้ผมช่วย ผมอยากรู้ว่าผมต้องทำยังไงบ้างครับ”
ลัลนายิ้มพอใจ คิดว่าภัทรหลงเธอจนโง่เข้าทาง
ภัทรพลเข้ามาที่หลังเวทีแล้วเดินตรงมาที่นางแบบของพิมภาที่แต่งหน้าเสร็จแล้ว นางแบบลุกขึ้น ภัทรพลเข้าไปขวางทันทีนางแบบมองงงว่ามีอะไร
“น้องเป็นนางแบบแป้งวิงค์ใช่ไหมคะ” ภัทรพลทำท่าทางแต๋วใส่
“ค่ะ”
“คุณพิมบอกให้พี่มาพาน้องไปเปลี่ยนชุดสำหรับขึ้นเวทีจ๊ะ”
“ก็ชุดนี้ไงคะ ชุดสำหรับขึ้นแวที”
“ต๊าย นี่มันไม่ใช่อ่ะค่ะ มันไม่ใช่ ใครหยิบชุดนี้ให้น้องเนี่ย รีบไปเปลี่ยนเลยนะคะ ถ้าคุณพิมมาเห็นว่าใส่ชุดนี้น้องโดนแคนเซิลงานแน่ๆ”
“แต่ว่าชุดนี้คุณแนนเขา...”
ภัทรพลไม่รอช้าท่าทีรีบร้อน จับนางแบบดันออกไป
“ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลยจ๊ะ”
“ห้องแต่งตัวทางโน้นนะคะ” นางแบบแย้ง
“พี่ย้ายห้องแต่งตัวแล้วจ๊ะ ตามพี่คนโน้นไปเลยนะจ๊ะ”
นางแบบมองไปเห็นซูซี่กับลิลลี่รออยู่ด้านนอก ซูซี่ยิ้มรับ พอภัทรพลดันนางแบบออกมา ซูซี่กับลิลลี่ก็เข้ามาจับแขนนางแบบแล้วดึงไปโดยที่นางแบบสู้แรงทั้งคู่ไม่ไหวจึงโดนซูซี่กับลิลลี่พาไป ภัทรพลมองตามยิ้มๆ
การะเกตุเดินหงุดหงิดมาที่บูธของพิมภา สายตามองไปทางบู๊ทลัลนาอย่างหัวเสีย
“เอกพลไปไหนเนี่ย”
การะเกตุมองหาเอกพลอย่างหงุดหงิด เดียที่ประจำอยู่ที่บู๊ทพิมภากำลังดูแลลูกค้าเห็นการะเกตุเดินเข้ามาก็เรียกอย่างเชิญชวน
“แป้งวิงค์ เนียน เรียบ ใกล้แค่ไหนก็ไม่หวั่นค่ะ เชิญทดลองสินค้าค่ะ”
การะเกตุมองเดียที่แทรกมาในจังหวะที่กำลังต้องการหาที่ระบายพอดี การะเกตุจึงยิ้มร้ายๆ
“ดีเลย กำลังอยากด่า เอ๊ยลองอยู่พอดี” การะเกตุรับแป้งมาจากเดียลองเอามาทาที่มือ “หยาบ” เดียสะดุ้ง ลูกค้าคนอื่นๆ มอง “ดูสิไม่เห็นจะเนียนเรียบตรงไหนเลย”
“งั้นลองเบอร์นี้นะคะ”
การะเกตุรับมาทาๆ
“ห่วย” เดียเริ่มหน้าเสีย ลูกค้าคนอื่นหันมองการะเกตุ พิมภากับนันทิกานต์เดินกลับเข้ามาชะงักที่ได้ยินเสียงการะเกตุ “คุณภาพต่ำแบบนี้เอามาขายได้ยังไง ไม่เห็นจะปกปิดอะไรตรงไหน”
พิมภาเดินยิ้มเข้าไปรับหน้า
“ขอโทษนะคะ สินค้าไม่ถูกใจเหรอคะ”
“ใช่” การะเกตุหันมาเห็นหน้าพิมภายิ่งเหวี่ยงเพราะหมั่นไส้เป็นทุนเดิม “โฆษณาเกินจริงนะ ทั้งที่คุณภาพสินค้าแย่มาก”
“ถ้าอย่างนั้นลองเบอร์อื่น”
“ไม่จำเป็น แค่แตะดูฉันก็รู้แล้วว่าไม่ได้เรื่อง เทียบกับแบรนด์ไฮๆ ที่ฉันใช้ คุณภาพแบบนี้โลว์คลาสมาก”
คุณจี๋กำลังลองสินค้าเดือดร้อนแทนพิมภาทันที
“ไม่จริงนะคะ ของเขาออกจะดี ดูสิเนี่ย ปกปิด เนียน เรียบจะตาย ทาหน้าสิคะคุณน้อง มือคุณน้องหยาบขนาดนั้น ใช้เป็นกิโลก็ปิดไม่อยู่หรอกค้า”
พิมภายิ้มเข้าทางเลย
“ขอให้ดิฉันเลือกให้นะคะ สภาพผิวหน้าของคุณคงต้องใช้การปกปิดระดับ 5 นะคะ”
“ระดับ 5 นี่สำหรับผิวแบบไหนนะคะคุณพิม” ตุณจี๋แกล้งถาม
“สำหรับสภาพผิวที่มีรูขุมขนใหญ่ค่ะ”
“ขนาดจี๋ว่ารูขุมขนใหญ่ยังใช้แค่เบอร์ 3” คุณจี๋ชี้ทางการะเกตุ “คุณน้องคนนีใช้ตั้งเบอร์ 5 เลยเหรอคะเนี่ย”
พวกลูกค้ามองหน้าการะเกตุแล้วเม้าท์กันเอง
“แสดงว่ารูใหญ่มาก”
การะเกตุโกรธของขึ้นเลย
“นี่เธอดูถูกฉันเหรอ”
“ถ้าเรารู้จุดบกพร่อง เราจะแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้อย่างดี นั่นคือความมหัศจรรย์ของแป้งวิงค์ค่ะ”
ลูกค้าคนอื่นๆ สนับสนุนเลยว่าใช่ๆ ๆ พากันตบมือให้พิมภา เพราะต่างหมั่นไส้การะเกตุ การะเกตุโกรธจัดมองพิมภาอย่างฝากไว้ก่อน พิมภายิ้มอย่างพยายามมีมนุษยสัมพันธ์ แต่การะเกตุยิ่งโกรธว่าโดนยิ้มเย้ย การะเกตุสะบัดหน้าเดินออกไป ลูกค้าคนอื่นๆ พากันมาทดลองสินค้า
“ขอบคุณนะคะคุณจี๋”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ พวกทำตัวเยอะแบบนี้พี่เกลียดนัก”
เดียขยับเข้ามาใกล้
“ขอบคุณนะคะพี่พิม”
“ต้อนรับลูกค้าท่านอื่นให้ดี” พิมภาหันมาเจอกับเอกพล “พี่มาที่นี่ได้ยังไง”
“พูดจาดีๆ สิจ๊ะพิม วันนี้พี่มาในฐานะคู่ค้านะ”
พิมภาจำต้องเก็บอารมณ์ แต่เอกพลก็ยืนยั่วกวนประสาทไม่ยอมไปไหน พิมภาทำเมินไม่มองไม่สนใจ
อีกด้านหนึ่งที่บ้านมิ้นท์ มิ้นท์เดินลงมาจากชั้นบนแอบดูชุติภาที่กำลังโทรศัพท์
“ทำไมไม่รับสักทีนะ” ชุติภาบ่น
ที่ห้องจัดเลี้ยง ผู้จัดการได้ยินเสียงโทรศัพท์หยิบขึ้นมาดูแล้วตกใจที่เห็นว่าเป็นชุติภาโทรมา
“คุณหญิง” ผู้จัดการรีบกดรับ “สวัสดีครับ คุณหญิง”
“ทำอะไรอยู่ทำไมรับสายช้านัก”
“พอดีกำลังวุ่นๆ กับงานเลี้ยงน่ะครับ”
“งานเลี้ยงอะไร ทำไมฉันไม่รู้”
ผู้จัดการตกใจที่เผลอหลุดปาก มิ้นท์ตกใจเข้าตาจนตัดสินใจยอมทิ้งตัวกระโดดลงมาจากบันได โครม!
“คุณย่า ช่วยมิ้นท์ด้วยค่ะ มิ้นท์เจ็บ”
ชุติภาตกใจรีบวางสายมาหามิ้นท์
“ยัยมิ้นท์ เป็นยังไงบ้าง ตรงไหนหักบ้างมั้ยเนี่ย”
“เจ็บค่ะคุณย่า”
ชุติภาประคองมิ้นท์มาที่โซฟาให้นั่ง
“เดี๋ยวย่าไปเอายามาทาให้”
ชุติภาเดินไป มิ้นท์ร้องโอดโอย ตาเหลือบมองเห็นว่าชุติภาไปแล้ว แอบบ่น
“พี่ต้นนะพี่ต้น กว่าจะเสร็จงาน น้องจะตายมั้ยเนี่ย”
มิ้นท์เห็นชุติภาเดินกลับมาต้องโอดโอยดึงความสนใจเต็มที่
ไฟในห้องจัดเลี้ยงเริ่มดรีมลง ไฟที่เวทีสว่างขึ้น ภาพที่จอโปรเจ็คเตอร์เป็นภาพพรีเซ้นต์ความเป็นนารีตลอดห้าปีที่ผ่านมา จบที่สโลแกน “Naree..ความสวยสำหรับหญิงสาวเช่นคุณ” ลัลนาขึ้นมาบนเวที
“ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Thank you party...by Naree ในโอกาสนี้ดิฉันขอเรียนเชิญ คุณสุกัญญา ผู้บริหารคนสำคัญของบริษัทนารีบนเวทีค่ะ”
สุกัญญาขึ้นมาบนเวที เสียงปรบมือต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ ห้าปีที่ผ่านมาเป็นเพราะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านในที่นี้ และในวันนี้นารีกำลังจะก้าวต่อไปโดยมีกำลังสำคัญคือคุณตรีวิญ วิศวนนท์” สปอตไลท์เปิดตัวตรีวิญบนเวที ทุกคนปรบมือ “คุณตรีวิญ จะมารับหน้าที่มาร์เก็ตติ้ง เมเนเจอร์คนใหม่ของนารี โดยมีรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ระดับเอเชียเป็นเครื่องการันตีว่านารีพัฒนาไปสู่ตลาดสากลในอีกไม่นานนี้”
สุกัญญามองลัลนาเป็นการส่งคิวให้
อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 19 ธ.ค 2555
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพรละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage