อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 6
เทยาเสียมากมายจนเธอร้อนร้องโวยวายใส่ยาขนาดนี้ร้อนจนลวกคอแล้ว เก่งหัวเราะชอบใจ ตะวันฉายโกรธแกล้งเดินกระแทกเก่งตกสระน้ำ เมฆหมั่นไส้ จูงหมอกเดินเฉียดตะวันฉายตกตามลงไป เธอร้องโวยวายโมโหอยู่ในสระน้ำวันต่อมา ตะวันฉายอาสาเก่งทำความสะอาดบ้านทั้งหมดให้ เพราะอยากเข้าไปค้นในห้องทำงาน แต่แล้วห้องทำงานเกิดล็อก เธอหงุดหงิด ปลดกิ๊บบนหัวมาไขประตูแต่ไม่สำเร็จ อิงฟ้าผ่านมาเห็นรีบไปฟ้องเมฆ
“ฟ้าเห็นซันพยายามจะเปิดประตูห้องทำงานของเมฆ แต่เข้าไม่ได้”
เมฆนิ่งฟังอึ้งๆ อิงฟ้ายุให้ไล่เธอออก เขาจะตัดสินใจ เอง...เมฆเข้ามาในห้องทำงาน มองไปรอบๆว่ามีอะไรที่ตะวันฉายต้องการ จึงลองหยั่งเชิง เอาเอกสารสำคัญของบริษัทมาวางล่อไว้ พอตะวันฉายเข้ามาทำความสะอาด เธอกลับไม่สนใจ แต่มามองเนื้อเพลงที่เขากำลังแต่ง
“คุณเมฆจะใช้คำนี้เหรอครับ...ฟังเพลงรักมามากมาย ฟังด้วยความซึ้งเท่าไหร่ ไม่รู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้เธอ...ผมว่าไม่ดีนะครับ”
“เก่งมาจากไหน ถึงมาติงานฉัน”
“ถ้าเนื้อเป็นว่า...ฟังเพลงรักมามากมาย ฟังใจความซึ้งเท่าไหร่...มันน่าจะดีกว่านะครับ เพราะฟังด้วยความซึ้งมันเหมือนเรามีความรู้สึกมาก่อนที่จะฟัง แต่ถ้าฟังใจความซึ้ง มันหมายถึงว่า เรามาฟังเพลงที่มีความซึ้ง ซึ่งไม่ว่าเพลงนั้นจะซึ้งเท่าไหร่ มันก็ไม่ดีเท่าได้ฟังกับเธอ”
เมฆตะลึงกับความคิดของเธอ ตะวันฉายให้เขาลองร้องดู เมฆอ้างว่าร้องเพลงไม่เป็น ชอบแต่งกับเล่นเท่านั้น เธอแปลกใจ ให้เขาเล่นตนจะร้องให้ฟังเอง แต่แล้วตะวันฉายร้องได้เสียงหลงจนเมฆอดขำไม่ได้ อิงฟ้า เดินผ่านมาเห็นความสนิทสนมของสองคนก็ไม่พอใจ
อิงฟ้ามาซักถามเก่งว่า เมฆกับซันสนิทกันหรือ เก่งรีบบอกว่า สองคนไม่ถูกกัน เถียงกันแทบทุกวัน อิงฟ้าไม่อยากเชื่อ...
เมฆมาที่ห้องอัด เล่าให้จอมสยามฟังว่า ตะวันฉายไม่สนใจเอกสารสำคัญของบริษัทเลย กลับมาสนใจแก้เนื้อเพลงของตนและทำได้ดีด้วย จอมสยามชักอยากได้มาเป็นนักแต่งเพลงของบริษัท เมฆโวยไม่อยากรู้แล้วหรือว่าเธอมาทำอะไรบ้านตน จอมสยามตอบเอาใจว่าอยาก พอดีเลขาโทร.มารายงานว่า เกริกไกรกับสายรุ้ง จะแวะมาเยี่ยมที่บริษัท เมฆยิ้มกริ่ม จอมสยามสงสัย ทั้งสองอาจมาติดตามดูผลงานของลูก เมฆไม่อยากมองไปทางร้าย แต่จะให้พ่อแม่ลูกเจอกัน
ยิ่งใกล้วันเกิดตะวันฉาย แต่ตัวเองมัววุ่นกับการหาข้อมูลจนลืม ยุทธการมาเป็นเพื่อนเอวาหาซื้อของขวัญ เขาจึงได้รู้ว่าตะวันฉายชอบเครื่องประดับแบบไหน เอวาแอบสะเทือนใจเล็กๆ
ooooooo
อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 7
ยุทธการถือโอกาสขอร้องเอวาให้ช่วย ทำอย่างไรก็ได้ให้ตะวันฉายอยู่ที่คอนโดฯคืนวันเกิด เขาจะจัดงานที่ริมสระเป็นเซอร์ไพรส์และชวนเอวากับนิคด้วยคืนนี้ อิงฟ้าเห็นเมฆหยุดไม่ไปเล่นดนตรี จึงชวนออกไปดูหนัง หมอกขอไปด้วย อิงฟ้าบอกไม่ได้ เด็กต้องนอนแต่หัวค่ำ หมอกหันมาอ้อนเมฆ เมฆปลอบลูก
“ไม่ต้องไปหรอกครับ เพราะพ่อก็จะไม่ไป”
“ทำไมล่ะเมฆ ฟ้าอยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
“ผมก็ไม่เคยกักขังฟ้านี่”
อิงฟ้าข่มอารมณ์ “เมฆ...พรุ่งนี้พาฟ้าไปช็อปปิ้งหน่อยนะ ฟ้าอยากซื้อ...”
“พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง” เมฆสวนทันควัน
อิงฟ้าสุดทนลุกพรวดขึ้นบอกเขาว่าตนไปคนเดียวก็ได้ เมฆไม่สนใจหันไปบอกตะวันฉาย พรุ่งนี้ให้แต่งตัวดีๆตนจะพาไปบริษัทด้วย อิงฟ้าหันขวับมาจ้องเมฆด้วยความโกรธ ตะวันฉายตาเป็นประกายที่จะมีโอกาสไปบริษัทของธีรภพ เมฆแอบเห็นรู้สึกสงสัยบางอย่าง
เมฆกล่อมหมอกเข้านอนด้วยการเล่นกีตาร์ร้องเพลง ตะวันฉายยืนฟังหน้าประตูด้วยความทึ่ง ที่เขาร้องเพลงเป็นทั้งที่เคยบอกว่าเขาเล่นดนตรีอย่างเดียว...
วันรุ่งขึ้น ที่บริษัท เมฆแกล้งคุยถึงโปรเจกต์งานและผลประกอบการให้ตะวันฉายได้ยิน แล้วแอบดูทีท่าว่ามีปฏิกิริยาอะไรบ้าง แต่เธอก็ไม่สนใจแถมดูจะเบื่อหน่ายมากกว่า วิวัฒน์แปลกใจที่เมฆพาพี่เลี้ยงลูกมาทำไม ท่าทางออกจะตุ้งติ้งดูไม่เป็นชาย เมฆขำๆ
ตะวันฉายเซ็งออกมายืนมองห้องน้ำว่าจะเข้าห้องชายหรือหญิงดี พลันได้ยินเสียงคุ้นหูจึงหันไปมอง เห็นเกริกไกรเดินมากับสายรุ้งก็ตกใจ รีบหลบหน้า เกริกไกรจะเข้าห้องน้ำ จึงขอทางตะวันฉายก้มหน้าขอโทษแล้วหลีกทางให้ แต่ไม่รู้จะไปทางไหนดีเพราะหันมาก็เจอสายรุ้ง
เมฆรู้สึกตัวว่าตะวันฉายหายไปนาน จึงออกมาตามหาเกรงจะหนีกลับบ้านไปก่อน...ตะวันฉายตัดสินใจก้มหน้าเดินผ่านสายรุ้ง เธอทำการ์ดที่ติดกระเช้าหล่นพื้นจึงร้องบอกระวังเหยียบ แล้วก้มลงเก็บ ตะวันฉายสะดุ้งเดินชนเครื่องถ่ายเอกสารโครม สายรุ้งตกใจยืนมองงงๆ เกริกไกรออกมาจากห้องน้ำ ถามว่ามีอะไร
“ก็เด็กผู้ชายเมื่อกี้น่ะสิ ดูแปลกๆ”
“ที่ยืนหน้าห้องน้ำใช่ไหม พ่อก็ว่าแปลกเหมือนกัน”
ตะวันฉายเดินหน้าตื่นมาเจอเมฆโผล่พรวดขวาง ถามเสียงเครียดไปไหนมา เธอโกหกว่าไปห้องน้ำ แต่หลงทาง เมฆยิ้มอย่างรู้ทัน แล้วบอกว่าจะพากลับห้องทำงาน พอดีมีพนักงานถือแผ่นโบรชัวร์ที่โรงพิมพ์ส่งมาให้ดูว่าจะแก้ไขอะไรบ้าง ตะวันฉายฉวยโอกาสเดินหนีจากเมฆ เธอวิ่งออกมาหน้าบริษัท โบกรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นซ้อนท้าย
“ไปเลยพี่”
“ไปไหนน้อง พี่ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์รับจ้างนะ”
“อ้าว แล้วจอดทำไมอ่ะ”
“จะถามว่านี่ใช่บริษัท แทรเวลทีหรือเปล่า”
ตะวันฉายชี้ โวยป้ายจะทิ่มหน้าอยู่แล้ว หันมองเห็นเมฆออกมาจึงรีบวิ่งไปเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างซ้อนท้ายเร่งรีบออกไป เมฆร้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่หยุด
เมฆกลับเข้ามานั่งซับเหงื่อพร้อมกับต้อนรับเกริกไกรและสายรุ้ง ทั้งสองทักรู้สึกเหมือนวันนี้เขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดี เมฆตอบว่าใช่
“ถ้าคุณนภทีป์ยังโกรธเรื่องเก่าๆอยู่ ทางเราก็อยากจะขอโทษอีกครั้งนะคะ และวันนี้เราถึงได้เดินทางมาเพื่อดูแลแทรเวลทีเป็นพิเศษเลยค่ะ”
“เรื่องเก่าน่ะ ผมไม่สนใจหรอกครับ ไม่อย่างนั้นผมยกเลิกสัญญาไปแล้ว”
“แสดงว่ามีเรื่องใหม่เหรอครับ”
“คุณสองคนไม่ทราบเรื่องจริงๆเหรอครับ”
“ผมเรียนตรงๆว่าไม่ทราบครับ อาจจะเป็นความผิดของทางลูกน้องผมที่ไม่ได้รายงาน ยังไงรบกวนช่วยเล่าให้ฟังได้ไหมครับว่ามีปัญหาอะไร”
เมฆมองอย่างพิจารณาก่อนจะเอ่ยถาม ว่าส่งใครมาสอดแนมบริษัทตนหรือเปล่า ทั้งสองแปลกใจและเริ่มไม่พอใจ
“คุณนภทีป์ครับ ถึงเราจะเพิ่งทำธุรกิจกันเพียง 3-4 ปี แต่จากชื่อเสียงของรีสอร์ตทั้งในและต่างประเทศ ทางเราไม่ทำอะไรที่จะทำลายตัวเองแน่ๆ”
“ใช่ค่ะ เราเป็นคู่ค้าธุรกิจ พึ่งพาอาศัยกัน เราไม่ใช่คู่แข่งของคุณ เราจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรคะ”
เมฆเห็นสีหน้าจริงจังของสองสามีภรรยาก็เริ่มเชื่อใจ...เมฆพาทั้งสองมาทานอาหารแล้วออกตัวว่า ระยะนี้มีคนแปลกๆเข้ามาสืบข้อมูลเชิงลึกของบริษัทอยู่บ่อยๆ ตนจึงต้องระวังตัว สายรุ้งว่า ทางตนคงไม่เอาข้อมูลบริษัทเขาไปให้บริษัทอื่นเพื่อเสียลูกค้ารายใหญ่ไปแน่ เมฆขอโทษอีกครั้ง เกริกไกรจึงบอกว่า คราวหลังถ้าอยากทราบอะไรให้ถามตนโดยตรง ไม่ต้องเกรงใจ
“งั้นผมขอถามว่า คุณตะวันฉายผู้จัดการแผนกต้อนรับเป็นลูกสาวคุณทั้งสองหรือครับ”
“ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ”
เมฆอ้างว่ากรุ๊ปทัวร์อยากมอบของขวัญที่บริการประทับใจ เกริกไกรยิ้มๆบอกว่าลูกสาวตนขอลาไปทำสิ่งที่ตัวเองรัก คือการเป็นนักเขียนเป็นเวลาหนึ่งปี
“งั้นช่วงนี้คุณสองคนก็คงไม่ค่อยได้พบลูกสาวสิครับ”
“ค่ะ เห็นว่ายุ่งๆหาข้อมูลอะไรนี่แหละค่ะ ก็เลยตามตัวเขายากหน่อย ถ้าคุณนภทีป์มีอะไรให้เรารับใช้ก็บอกได้นะคะ เราจะดูแลแทนลูกสาวเอง”
เมฆรับคำ เขาสังเกตดูว่าสองสามีภรรยาจะไม่รู้ เห็นเป็นใจกับลูกสาวจริงๆ
ooooooo
เมื่อตะวันฉายหลบมาได้ก็รีบโทร.ปลุกเอวาให้รับนิคไปเจอกันที่คอนโดฯของตนด่วน พอเพื่อนทั้งสองรู้ว่าพ่อแม่ตะวันฉายมาก็ตกใจ นิคเผลอถามเอวาว่านี่อยู่ในแผนของยุทธการด้วยหรือเปล่า ตะวันฉายงง เอวาหน้าเจื่อน
อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 6-7 วันที่ 30 ธ.ค. 55
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวินตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ