อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 17 พ.ย. 2555
“พิมจ๊ะเรื่องดอกไม้ในงาน ปลาจัดการให้เรียบร้อยแล้วนะ” ปราสินีหันมาทางพิมภา“นี่...ยัยแนนดูไว้ เพื่อนตัวอย่างมันต้องแบบนี้” พิมภาชื่นชม
“ใช่สิ แกเล่นใช้ให้ยัยปลาจัดการเรื่องงานแต่งทุกอย่างเหลืออย่างเดียวที่ไม่ให้ทำ”
“อะไร” พิมภาสงสัย
“เป็นเจ้าสาวซะเองไง...แต่ป่านนี้ยัยปลายังไม่มีแฟน อีกไม่นานคงโหนคานเป็นเพื่อนฉันมั้ง”
“บ้าแล้วแก สวย ๆ อย่างปลาไม่มีทางโสดหรอก ฉันคอนเฟิร์ม...เนอะ” พิมภาการันตี
“เออ...ฉันมันขี้เหร่”
“จริง!” พิมภา,ปราสินีพูดพร้อมกัน
นันทิกานต์งอนใส่เลย สองเพื่อนสาวเข้ามาง้อ สามสาวยิ้มให้กันอย่างสนิทสนม...หลังเสร็จการลองชุดและถ่ายรูปแต่งงาน เอกพลพาพิมภามาส่งที่คอนโดฯ
“พิมจ๊ะ...แล้วเรื่องที่จะเสนอผมเป็นคอนเซาต์ให้ทาง Naree ไปถึงไหนแล้วจ๊ะ”
“คุณสุบอกว่าหลังแต่งงานให้พาพี่เอกเข้าไปคุยที่บริษัทค่ะ วันนี้ขอบคุณมากนะคะพี่เอก”
พิมภาจะลงแต่เอกพลดึงไว้แล้วจะกอดหอม พิมภาตกใจ
“มะรืนนี้เราจะแต่งงานกันแล้ว ขอพี่ชื่นใจหน่อยนะ”
“พิมว่ารอให้ถึงวันแต่งงานก่อนดีกว่านะคะ”
“นิดเดียวนะเป็นกำลังใจ..นะ”
เอกพลขยับเข้าหอม พิมภาหลับตาปี๋เกร็ง แต่เขาไม่หยุดแค่หอมจะลงมาไซ้คอ พิมภาสุดทนผลักเต็มแรง จนหัวแฟนหนุ่มไปกระแทกกับกระจกดังโป๊ก! เอกพลร้องโอ้ย รีบผละออก “พิมขอโทษค่ะพี่เอก”
“ไม่เป็นไร...พี่ขอโทษนะที่ทำให้พิมลำบากใจ...แต่พี่รักพิมนะครับ”
“พิมยังไม่คุ้นน่ะค่ะ”
“งั้น...พี่ว่าเราควรจะคุ้นเคยกันไว้”
พิมภาแกล้งหาว บอกว่าเธอง่วงมาก รีบเปิดประตูลงจากรถทันที เอกพลยิ้มอย่างเสียดายแล้วออกรถไป พิมภาเดินเข้าห้องมา พลางถอนใจ หยิบกระดาษทิซชูมาเช็ดคอ เช็ดหน้าแล้วบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“แต่งงานแล้วก็ต้องเจอหอม เจอไซ้แบบนี้ตลอดใช่ไหมเนี่ย...ทำไม มันไม่เคลิ้มหวานเหมือนในหนังนะ”
พิมภาทิ้งตัวลงนั่งหน้าเครียด มองชุด เจ้าสาวที่ใส่หุ่นตั้งอยู่กลางห้อง...พลันได้ยินเสียงดังจากหน้าห้อง เธอจึงเปิดประตูออกไปดู เห็นสามีห้องข้าง ๆ กำลังตบตีภรรยาไม่ยั้ง พิมภาทนไม่ไหวเลยเข้าไปห้าม
“เรื่องของผัวเมีย อย่ายุ่ง!”
“ผู้หญิงโดนรังแก ฉันต้องยุ่ง! ถ้าฉันไม่ยุ่งฉันก็มีความผิด”
“เพ้อเจ้ออะไรวะ! คนนอกอย่ามายุ่ง ไม่งั้นผมจะแจ้งความ”
“ดักดาน! ไม่รู้ใช่ไหมว่ารัฐเขาออกกฎหมายแล้ว ถ้าเห็นคนโดนรังแกจะเด็กหรือผู้หญิง เราต้องช่วย ถ้าไม่ช่วยก็ถือว่ามีความผิด ดังนั้น ถ้าคุณไม่หยุด คุณจะโดนข้อหาทำร้ายร่างกาย!”
ฝ่ายสามีเมื่อเห็นพิมภาเอาจริงจึงไม่กล้า จะไป ฝ่ายหญิงเข้าไปดึงสามีไว้และร้องโวยวายไม่ให้ไปกับเมียน้อย ฝ่ายชายปัดป้องโวยวายแล้ว
ผลักเมียจนล้มลงไปที่พื้น พิมภาจะเข้าไปประคองแต่ชะงักที่เห็นภาณุวัฒน์ พ่อของเขาเข้าไปประคองผู้หญิงพาเดินมาที่สามี
“นี่พวกคุณมายุ่งอะไรด้วย!...คนพวกนี้มันเป็นใคร เธอตามพวกมันมาใช่ไหม”
“ภรรยาคุณไม่ได้ตามเรามา...แต่เราทนเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายไม่ได้ แล้วแม่ก็ยอมไม่ได้ที่คนเป็นสามีจะขโมยของ ๆ ภรรยาตัวเองไปให้ผู้หญิงอื่น” พิมมาลา เดินเข้ามาจ้องผัวด้วยสีหน้าดุมาก
“นี่แกขโมยของฉันเหรอ” ภรรยาถามสามี
“พูดมั่วอะไรวะ ใครขโมยอะไร” สามีทำเฉไฉ
“สายสร้อยทองที่ห้อยอยู่ตรงกระเป๋ากางเกง เป็นสร้อยลายดอกไม้แบบที่ผู้ชายไม่ใส่ ท่าทางร้อนรน เหงื่อแตกเป็นลักษณะของคนที่ปิดบังความผิด...ถ้าโทรศัพท์ปิดเสียง ก็แสดงว่าไม่ต้องการให้ภรรยาอารมณ์เสียจนรู้ตัว ทำเนียน ๆ เอาใจ แต่คงใกล้จะได้เวลานัดก็เลยใช้วิธีเสียงดังโวยวายหาเรื่องออกไปข้างนอก”
แล้วภัทรพล พี่ชายของพิมภาโผล่มาตรง กลางระหว่างภาณุวัฒน์กับพิมมาลา
“แสดงว่าเป๊ะ! พี่ชายแต่งงานแล้วต้องจำไว้นะครับว่า...รักเมียต้องอดทน ต้องเป็นคนเคารพเมีย รักเมียต้องส่งเสีย อย่าให้เมียต้องสงสัยรักเมียต้องรักเดียว อย่าได้เที่ยวไปรักใคร รักเมียต้องทำใจ ถึงอย่างไร เธอก้อเมีย!”
สามีไม่พอใจ ตวาดด่าว่าครอบครัวพิมภาที่เข้ามายุ่ง ภาณุวัฒณ์ อดีตนายตำรวจท่าทางใจดีเปลี่ยนเป็นหน้าโหดเล่นงานสามีจนสะบักสะบอมสลบไป...หลังเสร็จเรื่องแล้ว พิมภามีประชุมเช้า ขอตัวเข้าไปนอนก่อน พลางหอมแก้มพ่อกับแม่แล้วเดินเข้าห้องไป
ฤชวีนั่งยิ้มมองภาพของพิมภาที่สแกนลงเครื่องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วเริ่มเปิดไฟล์พิมพ์นิยาย พลันสายตาสะดุดที่ผ้าเช็ดหน้าที่ถูกพับวางไว้อย่างดี ยิ้มเขินเคลิ้มฝันเมื่อนึกถึงหน้าหญิงสาว
“ถ้าได้เจอกันอีกครั้ง...ผมจะไม่พลาดอีกแน่ ๆ”
“พลาดอะไรเหรอพี่ต้น” มิ้นท์ชะโงกหน้ามาข้าง ๆ ฤชวี
“มิ้น เข้ามาตอนไหน มาเงียบ ๆ พี่ช็อกตายทำไง”
“ทำศพสิพี่ ถามไม่คิด...นี่พี่กลับมาจากอเมริกาเมื่อไหร่ ไม่เห็นบอกกันมั่งเลย”
“สองอาทิตย์แล้ว”
“สองอาทิตย์ แล้วคุณย่ารู้หรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่รู้หรอก พี่กลับมาปุ๊บก็ตรงไปเชียงใหม่เลย...แต่แกห้ามบอกคุณย่าเด็ดขาดนะว่าพี่กลับมาแล้ว”
“โอ๊ย! ระดับคุณย่าชุติภาของเราน่ะ กระดิกนิ้วสองทีก็ตามพี่เจอแล้ว นี่ก็โทรฯจิก
มิ้นท์ถี่มาก เห็นว่าเล็งสาวไว้ให้พี่ต้นคนนึง”
“ก็สาเหตุนี้ล่ะที่พี่พยายามหลบท่านอยู่ พี่ต้องรีบทำงานแล้วก็ไม่อยากปวดหัวไปดูตัวกับใคร”
มิ้นท์ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าพิมภาขึ้นมาโชว์ พลางว่าคงเป็นเพราะเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้แน่ แล้วสาวน้อยก็ทำเสียงล้อเลียนคำพูดพี่ชาย
“เป็นครั้งแรกที่ผมไม่สนว่ามันจะเป็น กลางวันหรือกลางคืน ขอแค่ให้ทุกเวลามีคุณอยู่ ข้าง ๆ ผมก็พอ เพ้อเชียว”
“ไม่ได้เพ้อ...พี่เขียนนิยายอยู่”
“เหรอ...งั้นผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มิ้นท์ขอนะ”
“ไม่ได้!” ฤชวีจะคว้ามา
“ฮ่า ๆ ๆ ฤาษีต้นกล้าตบะจะแตกแหะ อยากรู้จริง ๆ ว่าเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้หน้าตาเป็นยังไง เป็นใคร อยู่ที่ไหนอ่ะพี่ แนะนำให้น้องรู้จักมั่งดิ”
“สวยมาก เจอกันที่เชียงใหม่ เข้าใจผิดกันนิดหน่อย พอเคลียร์ได้ เขาก็รีบไปเลยไม่ได้ถามชื่อ”
“ว้า...แห้วสิพี่ชาย”
“ไม่หรอก พี่เชื่อว่าเราต้องได้เจอกันอีก”
“ขอให้ได้ขอให้โดนพี่ มิ้นท์ไปนอนก่อนนะพรุ่งนี้มีกองถ่ายโฆษณาตัวใหม่ ต้องไปประกบใกล้ชิด”
“ไปเถอะ แต่อย่าลืมห้ามบอกคุณย่าเด็ดขาดนะ” ฤชวีกำชับน้องสาว
ที่บริษัท Naree เป็นที่รู้กันดีว่าพิมภากับลัลนาเป็นคู่แข่งขันและขับเคี่ยวกันทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยทำให้ทีมงานมาร์เกตติ้งของคนทั้งคู่ก็เป็นเช่นกัน...ลัลนากับพิมภา ต่างฝ่ายต่างเชิดมองตรงไปข้างหน้าเพื่อรอเวลาเข้างาน เสียงนกหวีดดังขึ้นพิมภากับลัลนากก็เหยียบคันเร่งพุ่งเข้าไปที่หน้าออฟฟิศ จอดเอี๊ยด!ที่ปลายกันชนหน้าแตะกับแก้วน้ำพอดีเป๊ะ! ทั้งคู่ลงมาจากรถ
“ไม่เลวนี่” ลัลนาเหล่มองพิมภา
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”
พิมภากับลัลนาสะบัดหน้าออกจากกัน แล้วเดินไปหน้าออฟฟิศที่ทีมมาร์เกตติ้งของตัวเองรออยู่ ก่อนจะเดินเชิด ๆ เริ่ด ๆ เข้าไปในออฟฟิศตามด้วยแก๊งมาร์เกตติ้งทั้งสองทีม เจ้าหน้าที่พีอาร์ 2 คนมาดักหน้าพิมภากับลัลนา
“สวัสดีค่ะ น้องเป็นพีอาร์ของนารีจะนัดสัมภาษณ์แบรนด์เมเนเจอร์ลงนิตยสารของบริษัทค่ะ ไม่ทราบว่า...”
“พี่ซูซี่ บ่ายนี้มีงานอะไรหรือเปล่าคะ” ลัลนาถามทีมงาน
“หลังประชุมกับบอสมีวางแผนงานของปลายปีน่ะค่ะ”
“ถ้างั้นน้องเช็กตารางงานกับผู้ช่วยของพี่แล้วกันนะ”
“เอ่อ...พี่คือพี่พิมภาใช่ไหมคะ” พีอาร์สาวถามเช็กเพื่อความชัวร์
แก๊งลัลนาชะงัก
“น้องจะมาสัมภาษณ์แบรนด์เมเนเจอร์ไม่ใช่เหรอ คุณลัลนาเขาก็แบรนด์เมเนเจอร์เหมือนกัน”
“คือน้องต้องทำสัมภาษณ์เรื่องที่ไปมอบของขวัญแต่งงานให้กับมิสเตอร์ไดซุเกะน่ะค่ะ แล้วน้องเพิ่งมาทำงานวันแรกก็เลยไม่ทราบว่าใครเป็นใคร”
“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่ชื่อพิมนะ เดี๋ยวสักสิบโมง น้องโทรฯมาหาพี่แนนนะ พี่เขาจะเช็กตารางของพี่ให้”
“ได้ค่ะพี่ ขอบคุณนะคะงั้นหนูขอไปเตรียมหัวข้อก่อนนะคะ”
พีอาร์ออกไป พิมภาหันมองลัลนาแล้วยิ้มเยาะ
“มันคนละระดับกันน่ะนะ”
“ทำเป็นตัวพองปลาบปลื้ม ไปมอบของขวัญมันหน้าที่แมสเซ็นเจอร์ชัด ๆ” ลัลนาไม่ยอม
“แต่ก็เป็นหน้าที่ที่เธออยากได้จนตัวสั่น อุตส่าห์ไปอาสากับคุณสุไม่ใช่เหรอ” พิมภาสวนกลับ
“น้องพิมรู้ได้ยังไงคะเนี่ย” ซูซี่หันไปถามพิมภา
“พี่ซูซี่!” ลัลนาตวาดทีมงาน
“อิจฉาล่ะสิ...งานสำคัญเขาก็ต้องให้คนมีความสามารถทำ” พิมภาพูดพลางจ้องสาวคู่แข่งคนสำคัญ
“มองอะไร!”
“ไม่เจอกันแค่สามวันได้จมูกใหม่มาอีกแล้วนี่ เธอซื้อชาเขียวแถมซิลิโคนยัดจมูกหรือไง... เดี๋ยวโด่งเดี๋ยวแฟบเปลี่ยนทุกเดือนจนฉันจำหน้าเดิมเธอไม่ได้แล้วนะเนี่ย”
พิมภายกนิ้วชี้จะแกล้งทิ่มไปที่จมูก ลัลนาปัดมือพิมภาอย่างไม่พอใจ พิมภายิ้มก่อนจะเลื่อนมาชี้ที่หน้าอก
“เดือนที่แล้วคัพเอ เดือนนี้คัพอี ยัดซะใหญ่ขนาดนี้ไม่กลัวนมแตกหรือไงแต่ก็น่าเห็นใจนะ...อุตส่าห์ไปทำมาตั้งหลายแสน ป่านนี้ยังเดินเดี่ยวเหี่ยวจนซิลิโคนจะหมดอายุ”
“ใครจะคันอย่างหล่อน ต้องมี...เพราะกลัวขึ้นคาน”
“ก็จะให้ดักดานจนหยากไย่ขึ้นแบบเธอ ทำไม่ได้จริง ๆ”
ลัลนามองพิมภาอย่างแค้น สองคนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร...เสียงมือถือดังขึ้น พิมภากดรับแต่ตายังมองที่ลัลนาอย่างเอาเรื่อง
“ค่ะคุณสุ ใช่ค่ะเช้านี้เรามีประชุมตอนแปดโมง ท่านประธานอยู่ที่ห้องแล้ว พิมจะรีบขึ้นไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
ทุกคนตกใจ ลัลนากับพิมภามองหน้ากันแล้วรีบพุ่งไปที่ลิฟต์อย่างรีบร้อนอลหม่าน
อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 17 พ.ย. 2555
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพรละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา เดลินิวส์